‘อนุทิน-ศักดิ์สยาม’ เดินหน้าสู้ ‘คดีค่าโง่โฮปเวลล์’ ลุยฟ้อง ป.ป.ช.-ดีเอสไอ พร้อมลุ้นคำสั่ง ‘ศาลปกครองกลาง’ ลั่น! ทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ประเทศชาติ-ปชช.

“อนุทิน-ศักดิ์สยาม” เดินหน้าสู้ “คดีค่าโง่โฮปเวลล์” ลุ้น “ศาลปกครองกลาง” วินิจฉัยปมจดทะเบียนโดยมิชอบ พร้อมฟ้องคดีอาญา ต่อ “ป.ป.ช.-ดีเอสไอ” ลั่น! เคารพ-ให้ความร่วมมือเต็มที่ ย้ำชัดดำเนินการให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ประเทศชาติ-ประชาชน

จากกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ไม่รับคำร้องของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้กระทรวงคมนาคม รฟท.ดำเนินการตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ จ่ายเงินชดเชยให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ภายใน 180 วัน นับจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง ซึ่ง รฟท.ประเมินมูลหนี้รวมตามคำพิพากษาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2551 ถึงสิ้นเดือน เมษายน 2562 รวมวงเงิน 25,411 ล้านบาทนั้น

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสั้นๆ ว่า ยืนยันรัฐจะสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ต่อไม่มีถอย โดยระบุเรื่องแบบนี้ รัฐบาลคงไปยอมจ่ายเงินง่ายๆ ไม่ได้

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานจาก รฟท. แต่กระทรวงคมนาคมเคารพในคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดที่ไม่รับคำขอพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ แต่กระทรวงคมนาคมก็จะเดินหน้าศึกษาวิธีการดำเนินการว่ายังสามารถดำเนินการใดได้บ้าง

ขณะนี้ ฝ่ายกฎหมายกำลังศึกษาอยู่ ซึ่งจะทำให้ดีที่สุด โดยจากที่ได้ศึกษาก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้เห็นข้อมูล รวมถึง รฟท. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โฮปเวลล์  (ประเทศไทย) จำกัด และกำลังรออยู่ว่าศาลจะรับคำฟ้องหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลใหม่ในเรื่องของความไม่สมบูรณ์ของการเปลี่ยนแปลงนิติบุคคลบริษัทโฮปเวลล์มีผลดำเนินการทางนิติกรรมสัญญา อาจจะมิชอบ ทั้งนี้ ทางฝ่ายทนายความของ รฟท. จะดำเนินการ

“ทั้งหมดจะทำให้ครบทุกช่องทางผมเรียนว่า โฮปเวลล์ ที่รัฐต้องจ่ายเงินกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ถ้าเราดูแล้วว่ามีทางที่จะสามารถทำให้เกิดความเสียหายน้อยได้ ก็ทำ ผมยืนยันเคารพการวินิจฉัยของศาลนะแต่ในกระบวนการยุติธรรมก็มีทางที่จะดำเนินการได้ภายใน 90 วันก็จะดำเนินการ ถ้าดำเนินการแล้วในที่สุดครบถ้วนกระบวนการแล้วคำวินิจฉัยเป็นอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้น” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ทั้งหมดต้องทำให้ครบถ้วน และดูคำวินิจฉัยเป็นอย่างไร เพราะว่าเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเก่า ข้อมูลที่กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการในที่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งนั้น พบว่ามีข้อมูลใหม่ที่จะต้องดำเนินการ ในส่วนของคดีอาญานั้น จะดำเนินการต่อและส่งไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนเรื่องความไม่ชอบของการจดทะเบียนนิติบุคคลได้ดำเนินการฟ้องไปที่ศาลแพ่งด้วย และยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ ส่วนตัวมั่นใจ แต่ทั้งหมดต้องเคารพคำวินิจฉัยของศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับไทม์ไลน์ของคดีค่าโง่โฮปเวลล์ ระหว่างปี 2562-2563 ภายหลัง ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเงินทั้งสิ้น 24,800 ล้านบาท

  • วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มอบหมายให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่
  • วันที่ 23 สิงหาคม 2562 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอพิจารณาคดีใหม่ พนักงานอัยการผู้รับมอบอำนาได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับคำขอพิจารณาคดีใหม่ เมื่อ 18 กันยายน 2562
  • วันที่ 22 กรกฎคม 2563 ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำสั่งไม่รับคำอุทธรณ์ขอให้ พิจารณาคดีใหม่ คดีโฮปเวลล์ ผลจากคำสั่งศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นตัน

ทั้งนี้ ผลจากคำสั่งศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้น โดยประเด็นตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย ถือว่าถึงที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีข้อเท็จจริงอื่นที่อาจร้องขอพิจารณาคดีใหม่ได้ ตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ฝ่ายรัฐอาจยื่นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นได้ โดยต้องกระทำภายใน 90 วันนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุนั้น แต่ต้องไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่อ่นคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

โดยกระทรวงคมนาคม เคารพในคำพิพากษาต่อคำสั่งดังกล่าว ฝ่ายรัฐจะถือปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด ในขณะเดียวกันก็จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาคดีเรื่องนี้ต่อไป สำหรับการบังคับคดีที่อาจมีขึ้นในอนาคตนั้น ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่