‘นิรุฒ’ ผู้ว่ารถไฟฯ สุดฟิต! ตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาผู้บุกรุกฯ ประเดิมแห่งแรก ‘บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11’

“นิรุฒ” เดินหน้าดูแลประโยชน์ของการรถไฟฯ สั่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาผู้บุกรุก-บริหารจัดการใช้พื้นที่บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางซื่อ และจิตรลดา ประเดิมพื้นที่ “บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11” เร่งจัดระเบียบการใช้พื้นที่-อาคาร-ตลาดนัด สางปัญหาชุมชนเสื่อมโทรม หวังพัฒนาความเป็นอยู่ให้กับพนักงาน-ประชาชนในพื้นที่โดยรอบ

นายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผู้บุกรุก บริหารจัดการ และจัดระเบียบการใช้พื้นที่บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางซื่อ และจิตรลดา เปิดเผยว่า ตามที่นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. ได้มีการลงสำรวจพื้นที่บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางซื่อ และจิตรลดา พร้อมกับมีนโยบายเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหาผู้บุกรุกในพื้นที่ เพื่อดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินการรถไฟฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนรถไฟ

ทั้งนี้ จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาผู้บุกรุก บริหารจัดการ และจัดระเบียบการใช้พื้นที่บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางซื่อ และจิตรลดา เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม และให้นำร่องแก้ปัญหาผู้บุกรุกบริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 เป็นพื้นที่แรก เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะดวก สะอาด ปลอดภัย ต่อชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานการรถไฟ และประชาชนในพื้นที่โดยรอบ

“ที่ผ่านมาพื้นที่บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม. 11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางซื่อ และจิตลดา (สามเหลี่ยม) ได้เกิดปัญหาผู้บุกรุกเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่อย่างยาวนาน จนปัจจุบันได้กลายเป็นชุมชนเสื่อมโทรมมีสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางระบายน้ำก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง เกิดปัญหาอาชญากรรม ปัญหาทางด้านสาธารณสุข สุขอนามัย จนกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพนักงานการรถไฟฯ ประชาชนที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีในสายตาภายนอก จึงมีความจำเป็นที่การรถไฟฯ จะต้องเข้าไปดูแลการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้มีความถูกต้อง เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรและส่วนรวม” นายสมยุทธิ์ กล่าว

นายสมยุทธิ์ กล่าวต่ออีกว่า แนวทางการแก้ไขดังกล่าว จะมีการเข้าไปจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ ทั้งที่ดิน อาคารสิ่งปลูกสร้าง โดยควบคุมติดตามและแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงการทำสัญญา แผนผังขอบเขตให้มีความถูกต้อง ชัดเจน และเป็นธรรม ตลอดจนการเข้าไปจัดระเบียบตลาดนัด ร้านค้าต่างๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ขณะเดียวกันจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อม เพื่อดูแลความเป็นอยู่ให้แก่คนในพื้นที่ ไม่ว่าเป็นการแก้ปัญหาจราจร การคืนพื้นที่สัญจร ฟุตปาธ พื้นผิวจราจร การแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง การขุดลอกคูคลองทางระบายน้ำ การดูแลรักษาความสะอาด ระบบสาธารณูปโภค การแก้ปัญหาอาชญากรรม การป้องกันการเกิดอัคคีภัย บ้านพัก รวมถึงสร้างสวัสดิการที่ดีแก่พนักงาน

“จากนโยบายดังกล่าวของผู้ว่าการรถไฟฯ จะช่วยให้การแก้ปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่มีมายาวนานให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยให้การรถไฟฯ สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างรายได้ให้กับองค์กรอีกทางหนึ่งด้วย ที่สำคัญยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานรถไฟ ซึ่งถือเป็นหัวใจในการพัฒนาองค์กรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถนำพาการรถไฟฯ ให้เป็นที่พึ่งของการให้บริการเดินทางขนส่งแก่ประชาชนคนไทยในทุกระดับต่อไป” นายสมยุทธิ์ กล่าว