เปิด 23 ความเสี่ยง ‘แผนฟื้นฟูบินไทยฯ’ ครอบคลุม ‘เส้นทางบิน-ฝูงบิน-โครงสร้างองค์กร’

เปิด 23 ความเสี่ยงฟื้นฟู “บินไทยฯ” หลังส่งคมนาคม พร้อมโดนตีกลับไปทบทวนใหม่ ชำแหละตั้งแต่เส้นทางบิน-ฝูงบิน-โครงสร้างองค์กร ลุ้น! คนร. เคาะ 18 พ.ค.นี้ “ศักดิ์สยาม” วางเดดไลน์ 21 พ.ค.นี้ ด้าน “สหกรณ์ออมทรัพย์การบินไทย” ร่อนจดหมายถึงสมาชิก เบรกถอนเงินเกินเดือนละ 300,000 บาท

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในวันที่ 18 พ.ค. 2563 ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น จะมีการพิจารณาแนวทางการฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมกันนี้ คนร. จะมีการตัดสินใจเลือกแนวทางการฟื้นฟูการบินไทยที่เหมาะสม

โดยก่อนหน้านี้ ผู้บริหารการบินไทยได้มีการนำเสนอแผนฟื้นฟูฯให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะออกมาระบุว่า แนวทางสุดท้ายที่จะใช้ในการฟื้นฟูกิจการฯ นั้น จะต้องปิดความเสี่ยงทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีรวมทั้งสิ้น 23 ข้อ เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง หากในอนาคตมีการใส่เงินสภาพคล่องเข้าไปเพิ่มเติม ในลักษณะเงินกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพราะอาจนำมาซึ่งความสูญเปล่าและเป็นภาระต่องบประมาณในอนาคต

สำหรับความเสี่ยง 23 ข้อ ประกอบด้วย 1.กลยุทธ์ด้านปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบิน ลดกำลังการผลิต ซึ่งพบว่าข้อมูลการซ่อมบำรุงอาจไม่ครบถ้วน การขายเครื่องบินและเครื่องยนต์ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน อาจทำได้ยาก 2.การปรับปรุงเส้นทางบินระยะยาวในส่วนของเส้นทางที่ไม่ทำกำไรและการที่ไม่มีเครื่องบินที่ต้องการนำไปให้บริการในเส้นทางที่มีศักยภาพมากกว่า 3.การขายเครื่องบินเดิม ซึ่งผู้สนใจเสนอราคาต่ำมาก 4.ปัญหาการพาณิชย์ การต่อต้านของผู้แทนจำหน่าย (เอเย่นต์) ที่อาจเสียประโยชน์จากการขายบัตรโดยสารแบบราคาเดียว หรือ Single Price

5.การนำดิจิตอลเทคโนโลยีมาบริการลูกค้าที่อาจทำไม่ได้ตามแผน 6.การปรับปรุงประสิทธิภาพฝ่ายช่างนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในฝ่ายช่าง 7.ความจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างฝ่ายซ่อมบำรุงใหม่ 8.ความจำเป็นต้องปรับปรุงผลตอบแทนการทำงานในฝ่ายช่างตามระดับผลิตภาพ 9.การปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่บุคลากรโดยรวม 10.การปรับปรุงความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานอื่น 11.การปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับ

12.การปรับจำนวนพนักงานให้สอดคล้องกับกำลังการผลิต 13.การปรับปรุงงานฝ่ายช่างในส่วนของงานซ่อมบำรุงอากาศยานทั้งที่สุวรรณภูมิและดอนเมือง ต้องมีความชัดเจน 14.งานฝ่ายช่างที่ศูนย์บำรุงอากาศยานอู่ตะเภา 15.งานบริการภาคพื้น ที่ต้องมีการปรับรูปแบบการทำงานใหม่ 16.การปรับปรุงบริการห้องรับรองพิเศษ 17.การปรับปรุงสร้างรายได้ ฝ่ายการพาณิชย์และไปรษณียภัณฑ์ 18.การสร้างทีม และพื้นที่ทำงานเชิงกลยุทธ์ของฝ่ายพาณิชย์สินค้า (Terminal) และไปรษณียภัณฑ์

19.การจัดกลุ่มธุรกิจของบริษัทใหม่ในอนาคตสำหรับหน่วยธุรกิจที่เคยมีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน ปฏิบัติได้จริง 20.การเพิ่มประสิทธิภาพครัวการบินให้ได้ตามเป้าหมาย 21.การจัดการธุรกิจครัวการบินให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Smart Kitchen 4.0, 22.ความชัดเจนในการจัดการธุรกิจครัวการบินที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ 23.การพัฒนาหน่วยธุรกิจการจัดเลี้ยงของบริษัท (Thai Catering Subsidiary)

อย่างไรก็ตาม จากความเสี่ยง 23 ข้อนั้น กระทรวงคมนาคมมองว่า ต้องปรับปรุงแผนเหล่านี้ ให้มีความรัดกุมไม่เกิดความเสี่ยงที่จะไม่สามารถปฏิบัติได้จริงตามแผน โดยในขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนแผนดังกล่าว ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ได้กำหนดกรอบเวลาส่งกลับแผนฯ ในวันที่ 21 พ.ค. 2563

ด้านสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัทการบินไทย จํากัด ล่าสุดสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ได้ส่งหนังสือถึงสมาชิก เรื่องเกี่ยวกับสภาพคล่อง และความมั่นคง ลงนามโดยนายสรยุทธ หอมสุคนธ์ รองประธานกรรมการของสหกรณ์ฯ หลังมีรายงานข่าว ระบุว่า มีสมาชิกฯ ถอนเงินจำนวนมาก ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวมีประเด็นสำคัญ 3 ข้อ เช่น ขอให้สมาชิกไม่ถอนเงินฝากเกินกว่าเดือนละ 300,000 บาท โดยไม่ใช่เหตุผลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล และความเจ็บป่วยซึ่งหากการเบิกถอนไม่เข้าเงื่อนไขที่กำหนด คณะกรรมการจะไม่พิจารณาอนุมัติเงินให้ จนกว่าสถานการณ์ของบริษัทฯ จะมีความแน่นอน รวมถึงการขอให้สมาชิกมีความเชื่อมั่นถึงความมั่นคงของสหกรณ์ฯโดยย้ำว่าบริษัทไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ และในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา สหกรณ์สามารถทำกำไรได้มากกว่า 460 ล้านบาท