‘สหภาพรถไฟฯ’ ออกแถลงการณ์ ฉ.2 วอนหยุดวิ่งรถโดยสารทั้งหมด พร้อมดูแลพนักงานกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิด ผดส.

“สหภาพการรถไฟฯ” ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 พร้อมร่อนหนังสือถึง รฟท. วอนหยุดเดินขบวนรถโดยสารทั้งหมด หากจำเป็นต้องวิ่ง ให้จัดอุปกรณ์ตรวจคัดกรองทุกสถานีจอดรับ-ส่ง พ่วงให้ดูแลพนักงานกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้โดยสารเต็มที่

นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เปิดเผยว่า วานนี้ (2 เม.ย. 2563) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เรื่องขอให้การรถไฟฯ กำหนดมาตรการอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากได้เข้าพบ นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อเสนอแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดดังกล่าว เนื่องจากในปัจจุบันสถานการณ์มีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น ผนวกกับการรถไฟฯ เป็นหน่วยงานด้านการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า การทำงานที่บ้านอาจดำเนินการได้แค่บางส่วนเท่านั้น จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลต่อพนักงานที่จะมีความเสี่ยง เนื่องจากต้องใกล้ชิดสัมพันธ์กับผู้โดยสาร และล่าสุดมีผู้โดยสารเสียชีวิตบนขบวนรถไฟด้วย

ทั้งนี้ สหภาพการรถไฟฯ จึงได้ยื่นหนังสือขอให้การรถไฟฯ หยุดเดินขบวนรถโดยสารทั้งหมด เพื่อสนองนโยบายและคำสั่งของรัฐบาล สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในบางขบวนจะต้องวิ่งรถเปล่า โดยเสนอให้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกาศงดการเดินขบวนรถโดยสารทั้งหมด แต่หากมีความจำเป็นที่จะเดินรถบางขบวน การรถไฟฯ ต้องจัดอุปกรณ์ตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกสถานีที่จอดรับส่ง จัดเครื่องป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง เจลทำความสะอาด แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันยังขาดอยู่ไม่ทั่วถึง และต้องทำความสะอาด พ่นยาฆ่าเชื้อตู้รถโดยสารทั้งขบวน รวมถึงรถจักรเมื่อเดินทางถึงปลายทางทั้งไปและกลับ

สำหรับพนักงานในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องใกล้ชิดสัมพันธ์กับผู้โดยสาร หากต้องกักตัวตามคำสั่งของรัฐบาลต้องไม่คิดคะแนนวันลา หรือพนักงานที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องกักตัว และต้องเข้ารับการรักษาตามคำสั่งแพทย์ ก็จะต้องไม่คิดคะแนนวันลาด้วย ขณะเดียวกัน หากพนักงานในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวนั้น การรถไฟฯ มีคำสั่งให้ไปตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 การรถไฟฯ ต้องออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด รวมถึงพนักงานที่ไปตรวจด้วยตัวเองแล้วพบว่าติดเชื้อฯ ให้สามารถเบิกจ่ายจากการรถไฟได้ เว้นแต่ไปตรวจเองแล้วไม่พบ บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเอง