‘บินไทยฯ’ ออกประกาศหยุดบิน 2 เดือน ถึง 31 พ.ค. นี้ พนังงานหยุดชั่วคราว-ลดเงินเดือนสูงสุด 50%

“บินไทยฯ” ออกประกาศหยุดบิน 2 เดือน สั่งพนักงานหยุดยาวถึง 31 พ.ค.นี้ หนีพิษ “โควิด-19” ลดเงินเดือนสูงสุด 50% ด้าน “ดีดี” โร่แจงสหภาพฯ หวังทำความเข้าใจแนวทาง พร้อมอัพเดทแผนฟื้นฟูฯ วอนทุกฝ่ายงดออกความเห็น-รอความชัดเจน ฟุ้ง! ช่วยองค์กรเดินหน้าได้

นายจักรกฤศฏ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามออกประกาศ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 042/2563 เรื่อง บริษัทหยุดทำการบินเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 2 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 31 พ.ค. 2563 เนื่องจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประกอบกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่งผลให้ไม่มีผู้โดยสารมาใช้บริการ โดยการบินไทยจึงต้องหยุดทำการบินภายในประเทศและต่างประเทศเป็นการชั่วคราว ซึ่งการบินไทยได้รับอนุญาตจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ให้หยุดทำการบินแล้ว

ทั้งนี้ จากการหยุดทำการบินชั่วคราว 2 เดือนนั้น การบินไทยจึงมีความจำเป็นต้องให้พนักงานหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวด้วย ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. – 31 พ.ค. 2563 โดยจะบันทึกรหัส 8502 ให้พนักงานทุกคน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงานในระหว่างการหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ดังนั้น จึงกำหนดแนวทางช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน กล่าวคือ จะจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พนักงานที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ในแต่ละเดือนตามอัตรา โดยที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ได้มีมติอนุมัติแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ฝ่ายบริหารของการบินไทย จะไปหารือร่วมกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เพื่อทำความเข้าใจกับพนักงาน ถึงการออกประกาศ และการกำหนดแผนต่างๆ ออกมา

สำหรับ จ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พนักงานที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว ในแต่ละเดือนตามอัตรานั้น ได้แก่ 1.พนักงานระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (EVP) จ่ายเงินช่วยเหลือ 50% ของเงินเดือนรวมค่าตอบแทน 2.พนักงานระดับผู้อำนวยการใหญ่ (VP) หรือกรรมการผู้อำนวยการ (MD) จ่าย 60% ขณะที่ พนักงานที่ได้รับเงินเดือนรวมค่าตอบแทนในระดับอื่นๆ จะจ่ายเงินช่วยเหลือในลักษณะแบบขั้นบันได โดยคำนวณจากเงินเดือนรวมค่าตอบแทน ดังนี้ 1.เงินเดือนรวมค่าตอบแทนไม่เกิน 20,000 จ่ายเงินช่วยเหลือ 90% 2.เงินเดือนรวมค่าตอบแทนตั้งแต่ 20,001-40,000 บาท จ่าย 75% 3.เงินเดือนรวมค่าตอบแทนตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท จ่าย 70% 4.เงินเดือนรวมค่าตอบแทนตั้งแต่ 60,001-100,000 บาท จ่าย 65% และ 5.เงินเดือนรวมค่าตอบแทนตั้งแต่ 100,001 บาท ขึ้นไป จ่าย 60%

นายจักรกฤศฏ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนับอายุงานต่อเนื่องตามปกติ และให้ได้รับสิทธิวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามระเบียบฯ โดยในระหว่างที่พนักงานหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวนี้ จะระงับการจ่ายค่าพาหนะทุกประเภทแก่พนักงานทุกระดับ ในส่วนของพนักงานที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทฯจะหักเงินสะสมและส่งเงินสมทบตามสัดส่วนจากเงินที่บริษัทช่วยเหลือในแต่ละเดือน โดยยังคงใช้อัตราร้อยละเดิม ขณะเดียวกัน พนักงานมีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลและค่าเล่าเรียนบุตรได้ตามระเบียบฯ

นอกจากนี้ การลาทุกประเภทก่อนวันที่ 4 เม.ย. 2563 ยังคงสิทธิจนครบกำหนดตามวันที่ลา หลังจากนั้น หากยังอยู่ในช่วงเวลาตามประกาศฉบับนี้ จะบันทึก Code 8502 ให้ต่อไป ยกเว้นการลาหยุดพักผ่อนประจำปี (Code 2100) ที่ได้ลาล่วงหน้าไว้แล้ว ให้ยกเลิกวันลา และให้พนักงานหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว (Code 8502) แทน ในส่วนกรณีที่พนักงานใช้สิทธิลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือนด้วยความสมัครใจ (Code 8501) ในเดือน มี.ค. 2563 แล้ว บริษัทฯจะดำเนินการหักเงินเดือนตามจำนวนวันลาที่ท่านได้ลาภายหลัง

นายจักรกฤศฏ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของการจัดทำแผนการฟื้นฟูการบินไทยว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูฯ โดยมุ่งเน้นที่การเพิ่มรายได้ เพิ่มคุณภาพในการให้บริการ และการพิจารณาทั้งระบบ พร้อมทั้งเป็นไปตามแนวทางของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูการบินไทยในครั้งนี้ จะทำให้การบินไทยสามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างแน่นอน

“ตอนนี้ ผมยังไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะแผนฟื้นฟูทำได้เยอะแล้ว และใกล้จะเสร็จแล้ว หากพูดไปตอนนี้ ก็อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เนื่องจากตอนนี้ มีทั้งฝ่ายการเมืองพูด สหภาพฯ พูด รวมถึงพนักงานพูด ก็เลยเข้าใจไม่ตรงกัน มีการเข้าใจผิด และสับสน ซึ่งผมของวอนทุกฝ่ายอย่าเพิ่งออกความเห็น ให้รอแผนฟื้นฟูสำเร็จก่อน และรอให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จบก่อนด้วย” นายจักรกฤศฏ์ กล่าว