‘BTS-MRT-แอร์พอร์ตลิงก์’ ยกระดับเฝ้าระวังการระบาด ‘โควิด-19’ เล็งใช้มาตรการ ผดส.ทุกคนใส่หน้ากากอนามัย

“ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า” รวมใจยกระดับมาตรการเฝ้าระวังการระบาดโควิด-19 วอนผู้ใช้บริการใส่หน้ากากอนามัย พร้อมทำแผนรับมือหากไทยเข้าระยะ 3 พ่วงเข้มตั้งจุดเทอร์โมสแกน ด้าน “คมนาคม” รับหากต้องบังคับให้ ผดส.รถไฟฟ้าใส่หน้ากากอนามัย ต้องมีประกาศ กรมรางฯ ออกมาก่อน

จากประเด็นที่เอกชนและผู้ให้บริการระบบไฟฟ้าเห็นว่าในระยะอันใกล้อาจจำเป็นต้องให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าทุกคนใส่หน้ากากอนามัย เป็นมาตรการบังคับ เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ต้องมีประกาศของกรมการขนส่งทางรางออกมานั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หากระเบียบเข้าเกณฑ์ที่กรมรางฯ จะต้องเป็นผู้ออกประกาศ ก็จะให้กรมรางฯ ศึกษารายละเอียด เพื่อดำเนินการต่อไป

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS กล่าวว่า สำหรับมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของรถไฟฟ้า BTS ในวันนี้ (19 มี.ค. 2563) เป็นวันแรกที่ทุกสถานีของรถไฟฟ้า BTS ได้มีการติดป้ายขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งถือเป็นมาตรการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจ และป้องกันการระบาดในระบบเดินรถ ทั้งในขบวนรถและในสถานี

ในส่วนกรณีหากภาครัฐโดยกระทรวงสาธารณสุขประกาศการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 BTS มีการเตรียมแผนรองรับไว้อย่างไรนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ BTS เตรียมแผนการรองรับไว้แล้ว โดยมาตรการสำคัญนั้น เช่น การใช้มาตรการบังคับให้ผู้ใช้บริการทุกคนต้องใช้หน้ากากอนามัย รวมทั้งการจำกัดช่องทางเข้า-ออกสถานีทุกแห่ง เพื่อให้สะดวกต่อการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกน ตรวจวัดไข้ คัดกรองผู้เข้าใช้บริการ อย่างไรก็ตาม การจะบังคับให้ผู้ใช้หน้ากากอนามัยนั้น จะต้องมีประกาศ ทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข และกรมการขนส่งทางรางออกมาบังคับ ทั้งนี้ ยืนยันว่า หากแม้จะมีการประกาศการระบาดเข้าสู่เฟสที่ 3 แต่บริการรถไฟฟ้า ก็ยังจำเป็นที่ต้องให้บริการอยู่ เพื่อความสะดวกของประชาชนที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้บริการส่วนหนึ่ง

 

ขณะที่ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า การป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19 รฟม.จะยกระดับมาตรการในการดูแลความสะอาดของสถานีและขบวนรถ โดยจะมีการเพิ่มการพ่นฆ่าเชื้อในระหว่างวันให้บริการ นอกเหนือจากมาตรการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อหลังปิดให้บริการแต่ละวัน นอกจากนี้ รฟม.อยู่ระหว่างการจัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนเพิ่มเติม เพื่อนำมาใช้ตรวจวัดไข้ของผู้โดยสารในทุกประตูทางเข้าสู่ระบบ เพื่อใช้คัดกรองผู้โดยสารที่มีไข้ จะไม่ให้เข้าสู่ระบบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงระบาด และให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ใช้บริการโดยรวม อย่างไรก็ตาม รฟม.ยอมรับว่าในขณะนี้การจัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนค่อนข้างมีอุปสรรค เนื่องจากเครื่องขาดตลาดมาก ตัวแทนจำหน่ายระบุว่าการสั่งซื้อในปัจจุบันจะได้รับของในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า รวมทั้งราคาได้ขยับตัวสูงขึ้น จากราคาเครื่องละประมาณ 1 แสนบาทเป็นราคาเครื่องละ 4 แสนบาทเลยทีเดียว

ส่วนคำถามว่าหากการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 รฟม.มีแผนแนวทางปฎิบัติอย่างไร นายภคพงศ์ ระบุว่า ในสวนนี้ รฟม.มีแผนและมาตรการรองรับไว้แล้ว โดย รฟม. พร้อมปฏิบัติตามมาตรการของรัฐทันที รวมถึงมาตรการสูงสุดในการให้ระบบรถไฟฟ้าหยุดให้บริการ เพื่อป้องกันการระบาดในส่วนนี้ รฟม. ก็มีความพร้อม โดยจะแจ้งให้เอกชนผู้ให้บริการระบบเดินรถ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ทราบทันที หากมีคำสั่งออกมา

 

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้ยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารก่อนเข้าสถานีโดยใช้เครื่องเทอร์โมสแกนในการวัดอุณหภูมิของผู้โดยสาร หากพบว่าผู้โดยสารรายใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีไข้ ก็จะขออนุญาตผู้โดยสารไม่ให้เข้าเดินทางในระบบ ซึ่งถือเป็นมาตรการเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนนี้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกแก่ผู้โดยสารด้วย

ในส่วนประเด็น หากรัฐบาลมีการประกาศว่าการระบาดเข้าสู่ในระยะที่ 3 และมีแนวทางให้ผู้ให้บริการเดินรถระบบรถไฟฟ้าปฏิบัติการงานอย่างไรนั้น นายสุเทพ ระบุว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ก็พร้อมปรับแผนปฏิบัติการทันที อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ยังเดินรถด้วยความถี่ที่สม่ำเสมอ และใช้ขบวนรถเต็มที่ทั้ง 9 ขบวน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด ภายในสถานีและขบวนรถมากเกินไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการสูงสุดที่จะต้องมีการ ป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19 ด้วยการบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า และรถไฟทั่วไป ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคนนั้น มาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้ได้ต้องมีประกาศของกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ออกมา ซึ่งขณะนี้มีรายงานข่าว ระบุว่า กรมการขนส่งทางรางอยู่ระหว่างการพิจารณายกร่างประกาศไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะใช้ปฏิบัติได้จริง ปริมาณหน้ากากอนามัยที่จะมีให้ประชาชนใช้ หรือหาซื้อได้ จะต้องมีเพียงพอด้วย เนื่องจากขณะนี้หน้ากากอนามัยที่ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าและเคยนำออกมา แจกจ่ายให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการฟรี หากตรวจพบว่าผู้ใช้บริการรายใดมีไข้ แต่ปัจจุบันปัญหาหน้ากากอนามัย ขาดตลาด แม้แต่หน่วยงานภาครัฐก็จัดหาซื้อยาก มาตรการบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ต้องใช้หน้ากากอนามัย จึงเป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ จะต้องแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมด้วย