‘ศักดิ์สยาม’ ชง ครม.ยุติศึกปมข้อพิพาททางด่วน 28 ม.ค.นี้ ฟากรถไฟไทย-จีน เตรียมประชุมร่วม 2 ฝ่ายต้น ก.พ. 63

“ศักดิ์สยาม” จ่อชง ครม. ยุติศึกปมข้อพิพาททางด่วน พ่วงแลกขยายสัมปทาน 15.8 ปี 28 ม.ค.นี้ ขณะที่รถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 28 เตรียมประชุมต้น ก.พ.นี้ พร้อมจรดปลายปากกาลงนามสัญญา 2.3 วงเงิน 5.06 หมื่นล้าน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการยุติข้อพิพาทระหว่าง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM มูลค่าหนี้ 58,873 ล้านบาท แลกกับการต่อสัญญาสัมปทานออกไป 15 ปี 8 เดือนว่า ในวันนี้ (6 ม.ค. 2563) กทพ.ได้นัดเจรจาร่วมกับ BEM เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของคณะกรรมการมาตรา 43 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2556 จากนั้นจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. พิจารณาเห็นชอบ ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการตามมาตรา 43 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2556 พิจารณา และส่งร่างสัญญาดังกล่าว ให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ จากนั้นจะส่งเอกสารที่จำเป็นตามมาตรา 47 พร้อมทั้งร่างสัญญาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันที่ 28 ม.ค.นี้

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า การขยายอายุสัญญาสัมปทานออกไปอีก 15 ปี 8 เดือนในส่วนของสัญญาระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ( A, B, C) ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 29 ก.พ. 2562 และทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D ที่จะสิ้นสุดวันที่ 22 เม.ย. 2570 รวมถึงโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (C+) ที่จะสิ้นสุด 27 ก.ย. 2569 เป็นให้สิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค. 2578 พร้อมมีเงื่อนไขว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องยุติข้อพิพาทและถอนฟ้องคดีทั้งหมดทั้งที่ศาลตัดสินไปแล้วและที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดีแบ่งเป็น BEM ฟ้องร้อง 15 คดี และ กทพ.ฟ้องร้อง 2 คดี คิดเป็นมูลหนี้ข้อพิพาทประมาณ 137,517 ล้านบาท รวมถึงการยกเว้นค่าผ่านทางทุกด่านตามประกาศวันหยุดประจำปีของสำนักนายกรัฐมนตรีที่มีประมาณ 19 วันต่อปีตลอดอายุสัมปทาน

แฟ้มภาพ

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร วงเงิน 179,413 ล้านบาท ในส่วนของสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร) วงเงิน 50,633 ล้านบาทนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือประสานไปยังนายนิ่ง จี๋เจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เพื่อนัดประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 28 นั้น ล่าสุดทางฝ่ายจีนได้ตอบรับการประชุมดังกล่าว ที่คาดว่าจะขึ้นที่ประเทศไทยในช่วงต้น ก.พ. 2563 พร้อมทั้งจะมีการลงนามสัญญา 2.3 ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ในส่วนของร่างสัญญา 2.3 นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบร่างฯ ของสำนักงานอัยการสูงสุด ภายหลังผ่านการพิจารณาข้อตกลงของคณะทำงานแล้ว

ด้านรายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่า ในส่วนของสกุลเงินนั้น เบื้องต้นจากการสอบถามความเห็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น จะใช้เงินกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในสัดส่วน 80% ส่วนอีก 20% จะใช้เป็นเงินสกุลบาท ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินกู้ อาจจะใช้อัตราค่าเฉลี่ยโดยคิดตั้งแต่วันที่ยื่นตั้งแต่ เม.ย. 2562 จนถึงวันลงนามสัญญา ซึ่งประเมินแล้วว่าเป็นอัตราที่มีความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และเป็นไปตามข้อเสนอของฝ่ายจีน