ครม.เศรษฐกิจ สั่งเร่งโปรเจ็กต์คมนาคม ‘อนุทิน’ เรียกคณะไฮสปีดเชื่อม3สนามบิน-รถไฟฟ้าสีส้มถกสรุปสัปดาห์หน้า ตั้งธงรถไฟไทย-จีน ลงนาม พ.ย.นี้

ครม.เศรษฐกิจ สั่ง “คมนาคม” เร่งไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน พร้อมมอบ “อนุทิน” เรียกถก 23 ก.ย.นี้ หลังเจรจาซีพียืดเยื้อ ด้านรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกต่อคิวคุย 25 ก.ย.นี้ เคาะรูปแบบเหมาะสม-จำนวนผู้โดยสาร ฟากสัญญา 2.3 รถไฟไทย-จีนลุยเจรจาสำนักงบฯ หาข้อสรุปแหล่งเงินกู้ ก่อนลงนามสัญญาภายใน พ.ย.นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันนี้ (20 ก.ย. 2562) ว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้สั่งเร่งดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท เนื่องจากมีเงื่อนไขของกรอบเวลากำหนดไว้ จากเดิมที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะต้องได้ข้อยุติกับกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่มซีพี) ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี จะเชิญนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมด้วยคณะกรรมการคัดเลือกโครงการฯ มาประชุมร่วมกัน เพื่อหารือข้อสรุปให้มีความชัดเจนในการส่งมอบพื้นที่ รวมถึงพิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามที่ทีโออาร์กำหนดไว้หรือไม่ ก่อนจะเสนอให้คณะกรรมการอีอีซีต่อไป

“ต้องไปดูเรื่องทีโออาร์การส่งมอบพื้นที่ ว่าเขาเขียนยังไง ว่าตรงนี้ให้ใคร เป็นหน้าที่ของใคร แต่ละเรื่องที่เจรจายังมายุติในทีโออาร์เขียนว่ายังไง จะได้ให้เขามาอธิบายให้ฟัง เรื่องนี้เราไม่สามารถไปแก้ทีโออาร์ได้ จะไปทำนอกเหนือกรอบทีโออาร์ไม่ได้ เพราะเงื่อนเวลาเร่งจนเป็นเงื่อนไข ซึ่งจะสิ้นสุดภายในเดือน พ.ย.นี้ เราปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปไม่ได้ ถ้าไม่จบต้องถามคณะกรรมการคัดเลือกว่า แนวทางการดำเนินการที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศคืออะไร” นายศักดิ์สยาม กล่าว

ขณะที่ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. วงเงินลงทุน 1.79 แสนล้านบาท ในส่วนของสัญญา 2.3 (งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร) วงเงิน 50,600 ล้านบาทนั้น ได้รายงานนายกรัฐมนตรีรับทราบถึงข้อหารือระหว่างฝ่ายไทยและจีนในส่วนที่ติดขัดหลักๆ จำนวน 12 ข้อ ที่ได้ข้อยุติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการรอยืนยันอย่างเป็นทางการ ขณะที่แหล่งเงินทุนนั้น อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณว่าจะใช้เงินกู้ภายในประเทศ หรือเงินกู้จากจีน จากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินของสัญญา ก่อนจะนัดประชุมทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อลงนามในสัญญาต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถลงนามได้ภายในเดือน พ.ย. นี้ ก่อนที่จะมีการจัดงานประชุมอาเซียนซัมมิทที่ประเทศไทย ซึ่งจะมีผู้นำรัฐบาลจีนเข้าร่วมด้วย

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันตก บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วงเงิน 1.28 แสนล้านบาท ที่จะใช้งบประมาณปี 2563 ว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจได้ตั้งข้อซักถามถึงรูปแบบของการดำเนินการของโครงการฯ หลังจากกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นว่าหากรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการในส่วนของงานโยธาเอง จะทำให้มีมูลค่าของโครงการที่ถูกลง เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุม เพื่อหาข้อสรุปทั้งรูปแบบการดำเนินการ และการคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารของโครงการ ในวันที่ 25 ก.ย. 2562 ก่อนเสนอให้ที่ประชุม ครม.ชุดใหญ่ ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์ที่จะต้องดำเนินการต่อไป