‘ขนส่งฯ’ รับลูกนโยบายคมนาคม จัดระดมกึ๋นทุกภาคส่วน ถกปมจำกัดเวลารถบรรทุกวิ่งเข้า กทม.-ปริมณฑล พร้อมเร่งสรุปส่งงาน ‘ศักดิ์สยาม’

“ขนส่งฯ” จัดระดมกึ๋นทุกภาคส่วน รับลูกนโยบาย “คมนาคม ยูไนเต็ด” ปรับเวลาให้รถบรรทุกวิ่งเข้าเขต กทม.-ปริมณฑล หวังแก้ไขปัญหาจราจร จ่อสรุปส่งงาน “ศักดิ์สยาม” ต่อไป ด้าน “พีระพล” แนะสิงห์รถบรรทุกป้องกันอุบัติเหตุทุกปัจจัยเสี่ยง

นายพีระพล  ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก พร้อมดำเนินการตามนโยบายกระทรวงคมนาคม เรื่องแนวทางการปรับระยะเวลาในการขนส่งด้วยรถบรรทุกในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เพื่อการแก้ปัญหาจราจร ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรและพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของประชาชนในปัจจุบัน ตามที่กระทรวงคมนาคมมีแนวทางจะปรับเวลาให้รถบรรทุกห้ามวิ่งขนส่งในช่วงเวลากลางวัน และจะอนุญาตให้วิ่งเฉพาะเวลา 24.00-04.00 น. จากเดิมที่ให้เดินรถได้ในเวลา 10.00-15.00 น. และ 21.00-05.00 โดยกรมการขนส่งทางบกได้จัดประชุมรับฟังข้อเสนอแนะจากภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย สมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฯลฯ ถึงความเหมาะสมในการปรับเวลาให้รถบรรทุกวิ่งในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังการรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนทั้งหมดนั้น ข้อมูลความคิดเห็นทั้งหมดจะถูกนำเสนอนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก่อนกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ ภายใต้การวิเคราะห์ข้อมูลจากทุกภาคส่วนอย่างรอบคอบรอบด้าน โดยพิจารณาความสมดุลในทุกมิติให้มีความสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในทุกด้าน ทั้งเรื่องเวลาในการขนส่งสินค้า การจราจร คุณภาพสินค้า ความปลอดภัย รวมถึงต้นทุนสินค้า และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จะมารองรับการประกอบการของภาคอุตสาหกรรม ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการผู้เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกและประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน

นายพีระพล กล่าวต่ออีกว่า ขณะที่การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดจากรถบรรทุกในทุกปัจจัยเสี่ยงนั้น ขอให้ผู้ประกอบการกวดขัน เรื่องการจัดให้มีสิ่งป้องกันไม่ให้สินค้าที่บรรทุกตกหล่นรั่วไหล กรณีที่เครื่องยนต์หรือเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถขัดข้อง จนมีความจำเป็นต้องจอดรถบนทางเดินรถหรือไหล่ทาง ต้องจอดรถในลักษณะที่ไม่กีดขวางการจราจร และต้องแสดงเครื่องหมายรูปสามเหลี่ยมด้านเท่ายาวไม่ต่ำกว่าด้านละ 50 เซนติเมตร พื้นเป็นสีขาวสะท้อนแสง มีเส้นขอบสีแดงสะท้อนแสงกว้าง 5 เซนติเมตร มีสัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หัวท้ายมนสีดำกว้าง 8 เซนติเมตร ยาว 25 เซนติเมตร อยู่ตรงกลางบนพื้นสีขาวในแนวดิ่ง พร้อมขาตั้งหรือฐานตั้ง โดยแสดงเครื่องหมายดังกล่าวบริเวณด้านหน้าและด้านท้ายรถ ระยะการวางไม่ต่ำกว่า 50 – 150 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่สามารถเตือนให้ผู้ใช้รถอื่นสังเกตเห็นและหลีกเลี่ยงหรือหยุดรถได้อย่างปลอดภัย และต้องแสดงสัญญาณไฟกะพริบ (ไฟฉุกเฉิน) และให้รีบดำเนินการแก้ไขเคลื่อนย้ายรถออกจากทางเดินรถหรือไหล่ทางโดยเร็ว

ในส่วนของกรณีรถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์นั้น ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดตรึงตู้คอนเทนเนอร์ (Twist Lock) ไว้กับตัวรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งพนักงานขับรถทุกคนต้อง“ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” นอกจากนี้ พนักงานขับรถที่ขับรถติดต่อกันเกิน 4 ชั่วโมง ต้องหยุดพักไม่น้อยกว่า 30 นาที จึงจะขับรถต่อไปได้อีกไม่เกิน 4 ชั่วโมงติดต่อกัน เมื่อครบระยะเวลาดังกล่าวต้องเปลี่ยนคนขับทันที