ทช. ทุ่มงบ 144 ล้านสร้างถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 3–ทางหลวงหมายเลข 331 หนุนท่องเที่ยวพัทยา

“กรมทางหลวงชนบท” เสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวพัทยา-ชลบุรี ลุยสร้างถนนทางหลวงหมายเลข 3 – ทางหลวงหมายเลข 331 วงเงิน 144 ล้าน เชื่อมโยงเส้นทางกว่า 13 กม. พร้อมก่อสร้างทางจักรยาน

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท หรือ ทช. เปิดเผยว่า ทช.ได้นำเส้นทางสายแยกทางหลวงหมายเลข 3 – ทางหลวงหมายเลข 331 อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว มาอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา ทช. จึงได้ทำการปรับปรุงเป็นเส้นทางดังกล่าว พร้อมสร้างทางจักรยาน เนื่องจากเมืองพัทยา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร วิหารเซียน , พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ทั้งยังสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้จักรยาน ในชีวิตประจำวันหรือการสันทนาการ และส่งเสริมการท่องเที่ยว การชมทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่สวยงามของแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแบบครอบครัวด้วย

ทั้งนี้ การก่อสร้างถนนในเส้นทางดังกล่าวนั้น มีจุดเริ่มต้นโครงการฯเชื่อมกับถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ที่ กม.0+000 แนวทางมุ่งไปทางทิศตะวันออกผ่านสายทาง ชบ.1008 ผ่านสายทาง ชบ.3020 ผ่านสายทาง ชบ.5010 และผ่านสายทาง ชบ.1003 บรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 ระยะทางรวม 13.632 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นรวม 144.950 ล้านบาท โดยมีรูปแบบการก่อสร้างสายดังกล่าว แบ่งออกเป็น 4 สายทาง ได้แก่ 1.ช่วง ชบ.1008 จาก กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 4+900 ก่อสร้างผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร ทางจักรยาน 2 ข้าง กว้างข้างละ 2.50 เมตร พร้อมก่อสร้างขยายสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก มีระบบระบายน้ำ ไฟฟ้า แสงสว่างและสิ่งอำนวยความปลอดภัย ระยะทางก่อสร้าง 4.900 กิโลเมตร

2.ช่วง ชบ.3002 จาก กม.ที่ 5+100 ถึง กม.ที่ 6+467.205 ก่อสร้างผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร พร้อมก่อสร้างขยายสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ระยะทางก่อสร้าง 1.367 กิโลเมตร 3.ช่วง ชบ.5010 จาก กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 2+640.178 ก่อสร้างผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร ระยะทางก่อสร้าง 2.640 กิโลเมตร และ 4.ช่วง ชบ.1003 จาก กม.ที่ 4+800 ถึง กม.ที่ 9+525 ก่อสร้างผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร พร้อมทางจักรยาน กว้างข้างละ 2.50 เมตร ระยะทางก่อสร้าง 4.724 กิโลเมตร โดยในปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และได้เปิดให้ประชาชนได้ใช้สัญจรแล้ว ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาและเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น ประชาชนมีรายได้จากการท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ตลอดจนส่งเสริมการออกกำลังกายให้กับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวด้วย