รีบเลย! บขส. เปิดจองตั๋วล่วงหน้าช่วงเทศกาลปีใหม่ 69 พบจองแล้วกว่า 20% ลุยจัดเตรียมรถโดยสาร รองรับได้ 1.2 แสนคน/วัน

“บขส.” เปิดจองตั๋วล่วงหน้าเทศกาลปีใหม่ 2569 เผยมีผู้โดยสารเริ่มจองแล้วกว่า 15-20% ชี้จองก่อนได้ที่นั่งชัวร์ สะดวก ปลอดภัยทุกเส้นทาง ลุยจัดเตรียมรถโดยสาร 4-6 พันเที่ยววิ่ง รองรับได้ถึง 1.2 แสนคน/วัน หวังไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง

 

นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ที่จะถึงนี้ ทำให้มีวันหยุดยาวติดต่อกันรวม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2568 จนถึงวันที่ 4 ม.ค. 2569 โดย บขส. คาดการณ์ว่า จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางเป็นจำนวนมาก เพื่อกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ทั่วภูมิภาค ซึ่งจะทำให้ความต้องการบริการของรถโดยสารสาธารณะเพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้น เพื่อวางแผนการเดินทางล่วงหน้า และเป็นการบริหารจัดการรถโดยสาร และเที่ยววิ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีรถโดยสารเพียงพอต่อความต้องการในการเดินทางของประชาชน ตามนโยบายกระทรวงคมนาคม บขส. จึงขอเชิญชวนประชาชนจองตั๋วล่วงหน้า ได้ที่ เว็บไซต์ บขส. https://tcl99web.transport.co.th, Application E – ticket, Facebook Page : บขส. (www.facebook.com/BorKorSor99), Line : บขส.99 (Id : @TCL99) และช่องจำหน่ายตั๋วโดยสาร บขส. ทั่วประเทศ หรือ โทร. 0 – 2936 – 3660

นายอรรถวิท กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีประชาชนจองตั๋วล่วงหน้าแล้วประมาณ 15 – 20% ในทุกเส้นทางทั่วประเทศ คาดว่าประชาชนจะเริ่มจองตั๋วจำนวนมากในช่วง ธ.ค. 2568 เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ตารางวันหยุดเริ่มชัดเจน และวางแผนการเดินทางได้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ บขส. เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยจัดเตรียมรถโดยสาร ประมาณ 4,000 – 6,000 เที่ยววิ่งต่อวัน เพื่อรองรับผู้โดยสารเดินทางเที่ยวไป – กลับ มากกว่า 90,000 – 120,000 คนต่อวัน และเตรียมจัดรถโดยสารไม่ประจำทาง (ทะเบียน 30) ให้บริการเสริม เพื่อให้มีรถโดยสารเพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

นอกจากนี้ บขส. ได้กำชับทุกหน่วยงานกำกับดูแลรถโดยสาร สถานีขนส่งผู้โดยสาร และพนักงาน ให้ดำเนินการตามมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น ตรวจความพร้อมรถโดยสารตรวจเช็คอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำออกมาให้บริการ ส่วนพนักงานขับรถต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ตรวจสารเสพติด และตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ