ทล. เตรียมเปิด ‘มอเตอร์เวย์ M81’ เต็มรูปแบบ เก็บเงิน-วิ่ง 120 กม./ชม. ม.ค. 69 พร้อมอัด 3 โปรเจกต์ 6 หมื่นล้าน หนุนเดินทางตะวันตก-ใต้
เปิดวิ่งฟรี! มอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. ทดลองใช้บริการ 24 ชม. ร่นระยะเวลาการเดินทางไม่ถึง 1 ชม. คาดเปิดเต็มรูปแบบพร้อมเก็บเงินภายใน ม.ค. 69 ด้าน “ทางหลวง” อัด 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ 6 หมื่นล้าน นำร่องเปิดประมูลที่พักริมทาง M81 ปลายปีนี้ เสร็จปี 71 เล็งสร้างถนนส่วนต่อขยาย 338 เชื่อมพุทธมณฑลสาย 4 เตรียมตอกเสาเข็มในปี 69 จ่อชง ครม. ไฟเขียวมอเตอร์เวย์ M8 นครปฐม-ปากท่อ เปิดใช้ปี 75
นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ อาคาร CCB โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 81 (M81) บริเวณด่านบางใหญ่ วันนี้ (31 ต.ค. 2568) ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อติดตามความพร้อมในการเปิดทดลองให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 (M81) สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) ตั้งแต่เมื่อเวลา 00.01 น. ของวันที่ 31 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป และจะทดลองเป็นระยะเวลา 3 เดือน ก่อนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ สามารถใช้ความเร็วได้ 120 กม./ชม. และเก็บค่าผ่านทางในช่วง ม.ค. 2569 ต่อไป

ทั้งนี้ โครงการมอเตอร์เวย์ M81 ถือเป็นโครงข่ายยุทธศาสตร์ด้านคมนาคมที่สำคัญของประเทศที่จะเชื่อมโยงกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปสู่ภาคตะวันตก และเชื่อมต่อไปยังภาคใต้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.นนทบุรี นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยจะมอบความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทาง และการคมนาคมแก่ประชาชน สามารถร่นระยะเวลาในการเดินทางจากถนนรัตนาธิเบศร์ อำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี ถึง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหากใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กม./ชม. จะใช้ระยะเวลาเดินทาง 72 นาที จากเดิมใช้เวลา 2 ชม.ครึ่ง- 3 ชม. และหากเปิดใช้เต็มรูปแบบจำกัดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กม./ชม. จะใช้ระยะเวลาการเดินทางเหลือเพียง 48 นาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมากรมทางหลวง (ทล.) ได้ทดลองเปิดให้บริการตลอดเส้นทาง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 สรุปสถิติปริมาณจราจรเฉลี่ยมากกว่า 35,000 คันต่อวัน และสูงสุดมากกว่า 50,000 คันต่อวัน ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ โครงการนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจกว่า 100,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความต้องการใช้เส้นทางของประชาชนได้เป็นอย่างดี

ด้านนายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล อธิบดี ทล. กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันโครงการฯ ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง พร้อมทั้งยังมีงานติดตั้งและทดสอบระบบต่าง ๆ จึงได้กำหนดให้จำกัดความเร็วของยานพาหนะเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยรถยนต์ รถกระบะ รถตู้ รถบรรทุก และรถบัสโดยสาร จำกัดความเร็วไม่เกิน 80 กม. ต่อ ชม. ส่วนรถพ่วงจำกัดความเร็วไม่เกิน 65 กม. ต่อ ชม. และจะต้องผ่านด่านชั่งน้ำหนักทุกคันด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ที่จะถึงนี้ จะยังไม่สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กม./ชม. โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมเก็บค่าผ่านทาง และใช้ความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กม./ชม. ภายใน ม.ค. 2569
สำหรับความคืบหน้าการติดตั้งงานระบบภายใต้สัญญาการให้เอกชนร่วมลงทุน หรือ PPP ในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) นั้น ปัจจุบันมีความคืบหน้า 98% โดย ทล. ได้เร่งรัดให้บริษัท บีจีเอสอาร์ 81 จำกัด ติดตั้งและทดสอบงานระบบส่วนที่เหลือ เพื่อเตรียมเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบและเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ภายใน ม.ค. 2569 ต่อไป

นายปิยพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ความคืบหน้าโครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทาง (Rest Area) บนมอเตอร์เวย์ M81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี วงเงิน 1,300 ล้านบาทนั้น ตามแผน ทล. จะเปิดประมูลภายในปลายปีนี้ จากนั้นจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2569 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี ก่อนเปิดให้บริการภายในปี 2571 ทั้งนี้บนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี มีที่พักริมทาง จำนวน 3 แห่ง ตลอดแนวเส้นทางโครงการ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ประกอบด้วย ห้องน้ำสาธารณะ ศาลาพักผ่อน อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อาคารสถานีตำรวจย่อยและหน่วยกู้ภัยอาคารร้านค้า ร้านอาหาร และสถานีบริการน้ำมันและซ่อมบำรุงยานพาหนะ เป็นต้น
ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 338 (ถนนบรมราชชนนี) เฟส 1 ช่วงพุทธมณฑลสาย 3-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทางรวม 4.63 กม. วงเงินรวม 4,490 ล้านบาทนั้น ที่ผ่านมา ทล. ได้เปิดประมูลหาผู้รับจ้างในรูปแบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ปัจจุบันได้เอกชนผู้ชนะการประมูลแล้ว คาดว่าจะลงนามสัญญาได้ภายในปีนี้ ทั้งนี้โครงการจะเริ่มดำเนินการออกหนังสือแจ้งเอกชนให้เริ่มงาน (NTP) และก่อสร้างได้ภายใน ก.พ. 2569 โดยแบ่งการประมูลก่อสร้างเป็น 6 สัญญา โดยมีรูปแบบก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรไป-กลับ (ฝั่งละ 2 ช่องจราจร) ระยะเวลาก่อสร้าง3 ปี ก่อนเปิดให้บริการ ภายใน เม.ย. 2572

นายปิยพงษ์ กล่าวอีกว่า ด้านโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายนครปฐม-ชะอำ ระยะทาง 61 กม. วงเงิน 54,562 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้างงานโยธา 40,162 ล้านบาท และค่าเวนคืน 14,400 ล้านบาท ทั้งนี้ทล. ได้เสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว จากนั้นจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายใน ม.ค. 2569 โดยการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ช่วงนครปฐม-ปากท่อ แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ช่วงนครปฐม – ตลาดจินดา ระยะทาง 11 กม. วงเงิน 10,509 ล้านบาท โดยจะใช้งบประมาณจากกองทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง (กองทุนมอเตอร์เวย์) ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2570 ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ส่วนระยะที่ 2 ช่วงตลาดจินดา – ปากท่อ ระยะทาง 50 กิโลเมตร วงเงิน 29,653 ล้านบาท โดยจะขอรับจัดสรรงบประมาณในปี 2571 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2571 ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ก่อนเปิดให้บริการตลอดเส้นทางในปี 2575
