‘ไทย สมายล์ บัส’ เปิดศูนย์ควบคุมอัจฉริยะแห่งแรกของไทย ยกระดับขนส่งสาธารณะด้วย AI เทียบชั้นหอบังคับการบิน
“ไทย สมายล์ บัส” เปิดตัว “ศูนย์ควบคุมอัจฉริยะ” ครบวงจรแห่งแรกของไทย ยกระดับรถเมล์เทียบชั้นหอบังคับการบิน ลุยใช้ระบบ AI ขับเคลื่อนการเป็นบริษัท Data-Driven Company พร้อมเปิดตัวท่าเรือ “สยามเจริญนคร” จุดจอดเรือแห่งที่ 10
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า วันนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของระบบขนส่งมวลชนของคนไทย ที่ได้เห็นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ “ไทย สมายล์ บัส” ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ภาคขนส่งสาธารณะ โดย “ศูนย์ควบคุมอัจฉริยะ” ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการอย่างแท้จริง ซึ่งเชื่อว่าการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้นั้น จะเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยให้การบริการขนส่งสาธารณะของคนไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านนางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา TSB ในฐานะผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ มีความมุ่งมั่น และทุ่มเทในด้านการพัฒนาการให้บริการ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคน ได้รับการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์การใช้ชีวิต
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ “TS-HUB” ศูนย์กลางการควบคุมการเดินรถทั้งทางบก และทางน้ำครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย ช่วยยกระดับการบริการ ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) คอยมอนิเตอร์รวบรวมข้อมูลการเดินทางตลอด 24 ชม. ทำให้สามารถตรวจสอบ บริหารจัดการคุณภาพการให้บริการได้อย่างเรียลไทม์ ได้แก่
- Bus Stop Distribution แสดงความหนาแน่นของจำนวนรถที่ผ่านป้าย
- Passenger Flow Statistics การแสดงจำนวนผู้โดยสารตามป้ายต่าง ๆ
- Dispatching การปล่อยรถแต่ละสาย แสดงตำแหน่งรถแต่ละคันในเส้นทาง
- Alarm Report การแจ้งเตือนพฤติกรรมคนขับขณะให้บริการ
- Realtime CCTV ตรวจสอบกล้องเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ
- Data Dashboard สามารถติดตามตัวชี้วัดสำคัญขององค์กรสร้างความโปร่งใสและวัดผลได้
สำหรับระบบของห้อง TS-HUB ยังเข้ามาช่วยเสริมการบริหารงานหลังบ้านได้อีกด้วย เพราะมองว่า บริษัทรถเมล์จะเติบโตได้ต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อลดข้อผิดพลาด ไม่ใช้ความรู้สึกตัดสิน หรือ เรียกว่าเป็น “Data-Driven Company” ที่ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าผู้โดยสารอยู่ตรงไหน ขึ้น-ลงป้ายใด ความต้องการใช้รถมากน้อยแค่ไหน ระยะห่างของรถ อัตราการใช้พลังงาน รวมถึงปัญหาสภาพจราจรด้วย
ทั้งนี้ เมื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์จะหาได้ว่า ปัญหาอยู่ตรงไหน จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์มากำหนดกลยุทธ์ พัฒนาบริการให้ลูกค้าได้ตรงจุด เช่น ข้อมูลจำนวนผู้ใช้บริการ เราต้องแยกประเภทให้เข้าใจแนวโน้ม รูปแบบการเดินทาง แล้วปรับปรุงคุณภาพบริการให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงกำหนดเป้าที่สามารถวัดผลได้จริงกับทีมงาน หากผลสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เราก็รู้ได้จากข้อมูลว่าจะต้องพัฒนาตรงจุดไหนเพิ่มเติม
นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าวต่อว่า แม้ “TS-HUB” จะเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานสู่ระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะ ที่สอดรับกับเป้าหมายด้านการลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม และมีความพร้อมในการเชื่อมต่อกับโครงข่ายขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น ๆ เพื่อรองรับการเป็นสมาร์ทซิตี้ในอนาคต แต่ความเป็นจริงของธุรกิจรถเมล์มีหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้บริการผู้โดยสารวันละหลายแสนคน มีพนักงานอีกกว่า 5,000 คน ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงใดย่อมต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ เพราะ TSB เชื่อว่า ต้องพัฒนา “คน” ไปพร้อมกับ “เทคโนโลยี” สร้างงานก่อเกิดอาชีพให้คนไทย เศรษฐกิจไทย เติบโตไปคู่กันถึงจะเป็นการยกระดับที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวท่าเรือ “สยามเจริญนคร” เป็นจุดจอดเรือแห่งที่ 10 ให้บริการรับส่งผู้โดยสารในเส้นทาง สยามเจริญนคร – วัดวรจรรยาวาส – สาทร – ไอคอนสยาม – ราชวงศ์ – ราชินี – วัดอรุณฯ – ท่าช้าง – พรานนก – พระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางท่องเที่ยวของพี่น้องประชาชน ที่สามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญริมน้ำเจ้าพระยาได้ แบบไม่ต้องเผชิญกับปัญหารถติด อันจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำพร้อมกับลดปัญหามลพิษของกรุงเทพมหานครได้อีกด้วย