เอาจริง! ‘สุริยะ’ คุมเข้มมาตรการลดฝุ่นละออง PM 2.5 สั่ง ขบ. ตรวจรถควันดำ หากพบค่าเกิน 30% ถูกพ่นห้ามใช้รถ-ปรับ 5 พันบาททุกราย
“สุริยะ” คุมเข้มมาตรการลดฝุ่น PM2.5 สั่งทุกหน่วยงานแก้ปัญหาด่วน ลุยตรวจรถบรรทุก – รถโดยสาร บขส. – ขสมก. หากพบควันดำเกิน 30% สั่งปรับทันที พร้อมเข้มงวดพื้นที่ก่อสร้างต้องสะอาดไร้ฝุ่น เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุม หวังลดการเกิดฝุ่นจากภาคคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของประเทศไทยในปัจจุบันที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ดังนั้นจึงได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินงานตามมาตรการภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของภาคคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในภาคคมนาคมขนส่งให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนนั้น ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดตรวจสอบและบำรุงรักษายานพาหนะให้มีสภาพดี มีค่าควันดำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเปลี่ยนไปใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือพลังงานสะอาด เช่น น้ำมันไบโอดีเซล B10 และ B20 ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บเงินบนทางพิเศษ (ทางด่วน) และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทุกสายทาง ทั้งการใช้ระบบ M-flow และการเพิ่มพนักงานจราจร และตำรวจจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกและเร่งระบายรถบริเวณหน้าด่านฯ
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และหน่วยงานที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมต่าง ๆ เข้มงวดให้ผู้รับเหมาฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาดล้อรถที่เข้า – ออกพื้นที่ก่อสร้าง กวาดล้างถนนที่เปื้อนดินจากการก่อสร้าง ปิดคลุมวัสดุก่อสร้างในการเก็บกองและขนย้าย และจัดการขยะอย่างเหมาะสม ห้ามเผาเด็ดขาด ดำเนินการตามที่รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) กำหนด
นอกจากนี้ ให่ติดตามตรวจสอบยานพาหนะและอุปกรณ์ในพื้นที่ก่อสร้างให้อยู่ตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด หากพบว่าไม่ผ่าน ห้ามนำมาใช้เด็ดขาดจนกว่าจะปรับปรุงให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน อีกทั้งได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ หากพบค่าควันดำเกินกว่า 30% จะมีความผิดตามมาตรา 71 ฐานนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้งาน ถูกพ่นห้ามใช้รถและปรับ 5,000 บาท ทุกราย
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 มีสาเหตุจากหลายปัจจัย สภาพภูมิอากาศเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะเกิดขึ้นในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว (ประมาณเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี) เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความกดอากาศสูง อุณหภูมิลดต่ำลง ทำให้สภาพอากาศปิด ไม่กระจายตัว ส่งผลให้ฝุ่นละออง หมอก ควันในบรรยากาศมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าปกติและเกิดการสะสม ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดดำเนินการเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ด้วยการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะหลักให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
อีกทั้ง ขับเคลื่อนการพัฒนาเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะรอง (Feeder) ในการเชื่อมต่อการเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน อาทิ การเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ไม่ปล่อยมลพิษ และตรวจสอบ บำรุงรักษารถยนต์ให้มีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดการเกิดฝุ่น PM2.5 จากภาคคมนาคมขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ