‘สมาคมสายการบินฯ‘ ขานรับนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็น ’ศูนย์‘ ในปี 93 ส่งเสียงถึงภาครัฐ หามาตรการอุดหนุนต้นทุนใช้ SAF
“สมาคมสายการบินฯ” ลุยปรับตัวช่วงเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมการบิน เร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม บรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกเป็น “ศูนย์” ภายในปี 93 พร้อมส่งเสียงถึงภาครัฐ หามาตรการหนุนต้นทุนรับประกาศบังคับใช้ให้สายการบินต้องเพิ่มสัดส่วนใช้น้ำมัน SAF 1% ในปี 69
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการบินอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำเชื้อเพลิงอากาศยานที่ยั่งยืน (SAF) มาใช้การพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการปรับใช้คาร์บอนเครดิตที่เป็นระบบ จึงถือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านสำคัญที่สายการบินต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ สมาคมสายการบินประเทศไทย เล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญที่ต้องทำในการนำทิศทางความยั่งยืนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับองค์กรภาคเอกชน ภาครัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการบิน ดังนั้นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีให้ได้เรียนรู้และเตรียมความพร้อมสำหรับการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของอุตสาหกรรมการบินของไทยในอนาคต
การจัดงานครั้งนี้ เพื่อร่วมมือกับภาครัฐในการทำงานการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพราะขณะนี้ทุกสายการบินยอมรับที่จะใช้น้ำมัน SAF และช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมในภาวะที่เราต้องร่วมดูแล เพื่อบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2593“ นายพุฒิพงศ์ กล่าว
นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกำหนดของภาครัฐที่เตรียมประกาศบังคับใช้ในปี 2569 ให้สายการบินต้องเพิ่มสัดส่วนใช้น้ำมัน SAF 1% ต้องยอมรับว่า ราคาน้ำมันดังกล่างเป็นต้นทุนที่แพงกว่าเชื้อเพลิงปกติ 3 เท่า ดังนั้น การทยอยเอามาเป็นส่วนผสมเล็กน้อย ถือเป็นแนวทางที่ดีที่จะทำให้ผู้ประกอบการได้บริหารจัดการต้นทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างไรก็ดี ในฐานะภาคเอกชน ยังคงหวังว่าภาครัฐจะมีแนวทางทำให้ต้นทุนเหล่านี้ปรับลดลงได้ ไม่ว่าจะเกิดจากวิธีลดต้นทุนการผลิต หรือภาครัฐจะเข้ามาช่วยสนับสนุนต้นทุน เพื่อทำให้สายการบินเดินหน้าให้บรรลุเป้าหมายต่อไปได้
ในส่วนของสิ่งที่ต้องการให้ภาครัฐช่วย คือ ความชัดเจนในการเดินหน้าแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ และแนวทางที่จะสนับสนุนผู้ผลิตน้ำมัน SAF ข้อกำหนดข้อบังคับที่จะมีผลต่อผู้ใช้ รวมไปถึงสร้างการรับรู้ต่อผู้ใช้บริการภาคประชาชนทั่วไป ถึงมาตรการที่กำลังจะเกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมการบิน เพราะที่ผ่านมาภาครัฐได้ดำเนินการในส่วนของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เชื่อว่าจะเป็นผลบวกอย่างชัดเจนสำหรับการท่องเที่ยวไฮซีซั่นปลายปี 2567 นี้
ด้านนายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า ภาครัฐได้มุ่งเน้นการสนับสนุนในการช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบินให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านการลดก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2593 รวมถึงการใช้มาตรการเชิงรุกในเชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (SAF) ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ตลาดคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่สร้างความตระหนักรูู้ถึงบทบาทของประเทศไทยในเวทีระดับโลก และการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาคาร์บอนเครดิต เพื่อตอบสนองต่อกฎเกณฑ์ CORSIA ภายใต้ข้อตกลงปารีส
ขณะที่ นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด และอุปนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า จากการทำงานร่วมกันเเละแบ่งปันประสบการณ์ทำงานด้านความยั่งยืน เชื่อมั่นและทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าสำคัญในการบรรลุเป้าหมายตามแผน พร้อมทำให้เกิดการปฏิบัติที่ชัดเจนและประเมินผลได้ พร้อมยืนยันว่า “อุตสาหกรรมการบิน” จะยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการเชื่อมต่อผู้คนทั้งเศรษฐกิจ สังคม โดยสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด