‘ไทย สมายล์ บัส’ จัดเตรียมรถแอร์เสริมทัพให้บริการ 14 เส้นทาง ทดแทน ขสมก. หยุดวิ่ง 24 ก.ค.นี้

“ไทย สมายล์ บัส” จัดเตรียมรถแอร์เสริมทัพให้บริการ 14 เส้นทาง ทดแทน ขสมก. หยุดวิ่ง 24 ก.ค.นี้ คาดมีผู้โดยสารเพิ่มวันละ 5 หมื่น-1 แสนคน ดันรายได้เพิ่มเดือนละ 30 ล้านบาท รวมเป็นเดือนละ 260 ล้านบาท พร้อมกางแผนบริหารฟีดรถ 2,350 คัน

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ผู้ให้บริการรถเมล์และเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% เปิดเผยว่า จากกรณีที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เตรียมหยุดให้บริการรถโดยสารประจำทางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 14 เส้นทาง ในวันที่ 24 ก.ค. 2567 นี้เป็นต้นไปนั้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการเดินทางที่อาจเกิดขึ้นกับความไม่สะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารหลังจากผู้ประกอบการรายเดิมถอดถอนรถให้บริการออกไป โดยบริษัทฯ จึงได้เตรียมแผนที่จะนำรถเมล์ปรับอากาศพลังงานไฟฟ้า (EV) ออกมาให้บริการทดแทน  โดยเบื้องต้นได้เตรียมรถให้บริการเพิ่มอีกกว่า 389 คัน และจะทยอยเพิ่มจำนวนต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า จะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นใน 14 เส้นทางนี้ ประมาณ 50,000-100,000 คนต่อวัน และจะทำให้สามารถเพิ่มรายได้อีก 30 ล้านบาทต่อเดือน

ด้านนายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด กล่าวว่า นอกจากนี้ บริษัทฯ การปรับปรุงเส้นทางจำนวน 116 เส้นทาง จากทั้งหมด 123 เส้นทางในแผนปฎิรูป โดยเสนอกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาขยายเส้นทางวิ่งไกลมากขึ้นแต่ไม่เกิน 10 กม.ทั้งนี้ เพื่อรองรับพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่นได้มากขึ้น โดยคาดว่าหากได้ปรับปรุงเส้นทางแล้วจะสามารถเพิ่มรายได้อีก 80 ล้านบาทต่อเดือน โดยปัจจุบันไทย สมายล์ บัส มีรายได้ 150 ล้านบาทต่อเดือน รวมเป็น 260 ล้านบาทต่อเดือน

ทั้งนี้ ไทย สมายล์ บัส พร้อมเริ่มให้บริการเต็มระบบใน 14 เส้นทางดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ โดยปัจจุบันไทย สมายล์ บัส มีรถให้บริการแล้วกว่า 2,350 คัน และมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถต่อเนื่องตามความต้องการของผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้น โดยจะเพิ่มจำนวนรถจากปัจจุบัน 1,500 คัน เป็น 1,900 คันในไตรมาส 4/2567 และคาดจะเพิ่มเป็น 2,100 คัน ในไตรมาส 1/2568 ส่วนอีก 250 คัน จำนำมาสำรองในช่วงระหว่างรถซ่อมบำรุง โดยจะจัดสรรเพิ่มในเส้นทางเดิมที่มีจำนวนผู้โดยสารหนาแน่น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ ตามเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 50%

สำหรับเส้นทางที่ ขสมก. แจ้งหยุดให้บริการในเดือนกรกฎาคมนี้มีทั้งสิ้น 14 เส้นทาง ประกอบด้วย สาย 3-36(4) ท่าน้ำภาษีเจริญ – ท่าเรือคลองเตย, สาย 4-17(88) วัดคลองสวน – ลาดหญ้า, สาย 3-37(12) ห้วยขวาง – ปากคลองตลาด, สาย 4-56(165) พุทธมณฑลสาย 2 – ถนนศาลาธรรมสพน์ – สำนักงานเขตบางกอกใหญ่, สาย 1-39(71) สวนสยาม – วัดธาตุทอง, สาย 3-1(2) สำโรง – ปากคลองตลาด, สาย 3-35(1) ถนนตก – ท่าเตียน

สาย 3-45(77) สาธุประดิษฐ์ – สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ(จตุจักร), สาย 4-15(82) พระประแดง – บางลำภู, สาย 4-46(84) สถานีรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่ – สามพราน, สาย 4-61(515) สถานีรถไฟฟ้าพญาไท – หมู่บ้านเอื้ออาทรศาลายา, สาย 3-3(11) อู่เมกา บางนา – มาบุญครอง, สาย 3-6(25) ท่าช้างวังหลวง – อู่สายลวด, และสาย 4-44(80ก.) วปอ.11-สวนหลวงพระราม8 โดยในส่วนของสาย 3-36(4), สาย 4-15(82), สาย 4-46(84) และสาย 3-6(25) ไทย สมายล์ บัส จะเดินรถให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง