ว้าวมาก! ‘NEX’ เปิดตัว ‘รถตู้ไฟฟ้า VIP’ 11 ที่นั่ง ราคา 2 ล้านกว่าบาท เล็งบุกตลาดอาเซียน ขานรับ EV Hub ตอกย้ำผู้ผลิตเบอร์ 1 ของไทย
“NEX” รุกหนักตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย เตรียมเปิดตัวรถตู้โดยสารวีไอพีพลังงานไฟฟ้า 11 ที่นั่ง ราคา 2 ล้านกว่าบาท ลั่น! หน่วยงานราชการติดต่อเช่าซื้อได้ ก้าวเข้าสู่ “สังคมคาร์บอนต่ำ” ดันไทย EV Hub ของภูมิภาค พร้อมวางเป้ากำลังการผลิต 6 หมื่นคันในปีหน้า ตอกย้ำผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 1 ของประเทศ
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า NEX เตรียมเปิดตัวรถตู้ Specification of Nex H9 11 seats ซึ่งเป็นรถตู้โดยสารวีไอพีพลังงานไฟฟ้า จำนวน 11 ที่นั่งแบตเตอรี่ลิเธียม–ไอออน ฟอสเฟต ความจุแบตเตอรี่ 86.1 kWh วิ่งได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รองรับการชาร์จทั้งแบบกระแสตรงและกระแสสลับ สามารถ Quick Charge จาก 20%-100% ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท
ทั้งนี้ รถตู้โดยสารวีไอพีพลังงานไฟฟ้า เหมาะสำหรับใช้เป็นรถผู้บริหาร รถโรงเรียน หรือปรับแต่งเป็นรถพยาบาล โดยหน่วยราชการใดสนใจที่จะเปลี่ยนจากรถตู้ที่ใช้น้ำมันมาใช้รถตู้โดยสารไฟฟ้าสามารถที่จะเช่าซื้อได้ ซึ่งเรามีระบบการให้บริการที่ครบวงจร มีไฟแนนซ์และประกัน มีศูนย์บริการหลังการขยายและสต็อกอะไหล่ที่สามารถบำรุงรักษาดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายคณิสสร์ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าในขณะนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ตัดสินใจเลือกลงทุนในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานการผลิตรถ EV หลายบริษัท อาทิ Foxconn , Ford , BYD ,Mercedes Benz , MG ,Toyota รวมมูลค่าแล้วเกิน 1 แสนล้านบาทซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศไทย เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ และรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว ที่สำคัญจะส่งผลให้ไทยกลายเป็น EV Hub ได้โดยไม่เสียแชมป์ที่เคยเป็นฐานการผลิตรถยนต์
ขณะเดียวกัน หลายคนอาจมองว่าการเข้ามาลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่อาจทำให้ NEX มีคู่แข่งมากขึ้น แต่ในปัจจุบันNEX ยังเป็นผู้ผลิตและประกอบยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แบบครบวงจรแห่งแรก เพียง 1 เดียวในไทย และได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยโรงงานผลิตภายใต้บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด หรือ AAB มีกำลังในการผลิตสูงสุด 9000 คันต่อปี
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างเร่งผลิตและทยอยส่งมอบรถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้า (รถเมล์อีวี) ซึ่งเป็นรถร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้ได้ 1,250 คันภายในปีนี้ ทั้งยังผลิตรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก (มินิบัส) เพื่อใช้เป็นรถร่วมบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) และรถโดยสารภายในของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Shuttle Bus) หรือที่รู้จักกันในชื่อ รถป๊อปจุฬาฯ อีกด้วย
นายคณิสสร์ กล่าวอีกว่า การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าสิ่งสำคัญที่คนส่วนใหญ่กังวลคือเรื่องของแบตเตอรี่ ซึ่งรถที่ NEX ผลิตสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของการชาร์จไฟ ซึ่งเรามี Ultra Fast Charge ซึ่งใช้ซีเลสในการชาร์จ 4C สูงสุดใช้เวลาชาร์จประมาณ 15 นาที ตั้งแต่ 10%-90% นอกจากนี้ยังได้คิดค้นนวัตกรรม Intelligent Battery Management System เพื่อช่วยให้มีการควบคุมแบตเตอรี่ได้ดีและมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถให้พลังงานได้นาน เก็บกักพลังงานไฟฟ้าได้ดี และวิ่งระยะทางไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตลอดเวลาแม้แบตเตอรี่ยังไม่หมด
จากนโยบายของรัฐบาล ที่จะเดินหน้าเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ และวิกฤตน้ำมันที่ยังคงเป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อสังคมในทุกหย่อมหญ้า ทำให้กระแสความต้องการรถพลังงานไฟฟ้าทั้งในภาคประชาชนและภาคอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง NEX มองเห็นโอกาสและเตรียมขยายโรงงานผลิตและประกอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แห่งที่ 2 ในปีหน้า โดยจะมีกำลังผลิต 50,000 คันต่อปี ส่งผลให้ในอนาคต NEX จะมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 60,000 คันต่อปีซึ่งจะรองรับทั้งระบบขนส่งโดยสารรวมถึงธุรกิจขนส่งสินค้า และมองว่าความต้องการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงตลาดในกลุ่มอาเซียนด้วย ผมมั่นใจว่า NEX จะยังเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แบรนด์ไทยของคนไทยที่เรียกได้ว่าเป็นเบอร์ 1 เพราะการที่เราได้เริ่มต้นก่อนและไม่หยุดที่จะพัฒนาก็ยากที่ใครจะตามทัน” นายคณิสสร์ กล่าว