โออิชิ ส่ง กรีนที ฮันนี่เลมอน น้ำตาล 0% เอาใจคนรักสุขภาพ เสริมทัพธุรกิจเครื่องดื่ม เผย 6 ด.แรกยอดขาย 3.4 พันลบ. 

โออิชิ กรีนที เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ “โออิชิ กรีนที ฮันนี่เลมอน น้ำตาล 0%” ตอบกระแสผู้บริโภคดูแลใส่ใจสุขภาพในยุคโควิด-19 และความกังวลใจในการบริโภคน้ำตาล แจ้งเกิดเซ็กเมนต์ใหม่ “น้ำตาล 0%” ขับเคลื่อนตลาดชาพร้อมดื่มผ่าน 3 กลยุทธ์ มุ่งขยายฐานลูกค้า-เพิ่มปริมาณการบริโภค ขณะที่ครึ่งปีแรกผลการดำเนินงานของธุรกิจเครื่องดื่มของโออิชิ(วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 มีนาคม 2565) มีรายได้ไปแล้ว 3,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.9%  โดยโออิชิยังครองอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งการตลาด 45%

นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สถานการณ์โควิด-19 ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้ชาพร้อมดื่มซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้วเป็นตัวเลือกที่โดนใจคนไทย ถือเป็นสัญญาณที่ดีของตลาดชาพร้อมดื่ม พิสูจน์ได้จากการเติบโตสูงถึง 12% สวนกระแสตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่เติบโตติดลบ 3.3% โดยพบว่าปัจจัยหลักในการดื่มชาพร้อมดื่มของผู้บริโภคยุคใหม่ ประกอบด้วย 1) รสชาติอร่อย สดชื่น ดื่มได้เป็นประจำ 2) ไม่เป็นโทษกับสุขภาพ และ 3) มีคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งสอดคล้องกับความกังวลเรื่องน้ำตาลของผู้บริโภค นวัตกรรมน้ำตาล 0% จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ดังกล่าว ที่มาพร้อมความท้าทายคือ การทำให้ได้รสชาติอร่อยโดยไม่มีน้ำตาล เพื่อให้ดื่มได้อร่อยสดชื่นแบบไร้กังวล”

“โออิชิ กรีนที ในฐานะผู้นำแบรนด์ชาเชียวอันดับหนึ่ง จึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ “โออิชิ กรีนที ฮันนี่เลมอน น้ำตาล 0%” แจ้งเกิดเซ็กเมนต์ใหม่ชาเขียวพร้อมดื่มน้ำตาล 0% ภายใต้แนวคิด “ดีต่อสุขภาพ รสชาติอร่อยแต่ไร้น้ำตาล” ประเดิมด้วย “รสฮันนี่ เลมอน” ที่เป็นรสที่ขายดีที่สุดของโออิชิและตลาดชาพร้อมดื่ม เปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้ “ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง” นักแสดงสาวตัวแทนคนรุ่นใหม่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ปลุกกระแสการดูแลสุขภาพร่วมกับกลุ่ม KOL และศิลปินนักแสดงที่มีไลฟ์สไตล์ใส่ใจในสุขภาพ”

ทั้งนี้ ความสำเร็จของโออิชิในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการโฟกัสจุดเด่นของแบรนด์ ทั้งคุณประโยชน์ที่ได้จากการดื่มชาเขียวที่ดีต่อสุขภาพ นวัตกรรมรสชาติที่หลากหลาย ฯลฯ พร้อมทั้งการขยายฐานสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพและกลุ่มวัยรุ่น ผ่านแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ให้มาเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่และโดนใจจนสร้างความภักดีกับแบรนด์ได้อย่างเหนียวแน่น รวมทั้งการได้รับรางวัลชาเขียวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค Thailand ‘s Most Admired Brand Awards ปีล่าสุด 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อน 3 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

  • กลยุทธ์ตอกย้ำแบรนด์ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ สร้างสรรค์เครื่องดื่มทางเลือกที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพไปอีกขั้น ด้วยการแจ้งเกิดผลิตภัณฑ์ทางเลือกสูตรไม่มีน้ำตาล เปิดเซ็กเมนต์ใหม่ให้กับตลาด ประเดิมด้วยรสฮันนี่เลมอนซึ่งเป็นรสชาติที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาด ด้วย “โออิชิ กรีนที ฮันนี่เลมอน น้ำตาล 0%” ส่วนรสชาติยอดนิยมอื่นๆ อย่างโออิชิ รสต้นตำรับ และรสข้าวญี่ปุ่น สูตรน้ำตาลน้อย ก็ได้รับเครื่องหมายทางเลือกเพื่อสุขภาพ เสริมทัพด้วยผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณค่าโภชนาการให้พร้อมใช้ชีวิตท่ามกลางโควิด-19 และตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ เช่น โออิชิ เคียวโฮ พลัสซี เพิ่มคุณประโยชน์จากวิตามินซี 200% ชาพร้อมดื่มพรีเมียม “โออิชิ โกลด์ วาโคฉะ” ที่มีสารทีเอฟลาวินช่วยเผาผลาญไขมัน และผลิตจากใบชาคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งตอกย้ำประโยชน์ของชาเขียวที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะสารคาเทชิน ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย (จากข้อมูลวิจัย Clinical Nutrition ESPEN) จึงตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
  • กลยุทธ์เพิ่มปริมาณการบริโภคกับกลุ่มวัยทีน ด้วยกิจกรรมและแคมเปญทางการตลาดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะวัยทีน จับมือพันธมิตรด้านต่างๆ เช่น จับมือ อนิเมะสุดฮิตระดับโลกจากญี่ปุ่น อย่าง “ดาบพิฆาตอสูร” หรือ Demon Slayer ออกแบบบรรจุภัณฑ์โออิชิจากตัวละครดาบพิฆาตอสูรสุดฮิต
  • กลยุทธ์สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ในการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม รวมทั้งแอปพลิเคชั่น “โออิชิ คลับ” ที่เน้นความแปลกใหม่และเร็วทันเทรนด์ความนิยมในแต่ละช่วงเวลา สร้างความน่าสนใจให้กับกิจกรรมและโปรโมชั่นต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ปัจจุบัน พอร์ตผลิตภัณฑ์ชาพร้อมดื่มโออิชิ กรีนที ประกอบด้วย 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่ม Regular Tea มีสัดส่วน 65% กลุ่ม Fruit Tea มีสัดส่วน 5% กลุ่ม Nata De Coco (วุ้นมะพร้าว) มีสัดส่วน 16% กลุ่ม Sparkling Tea มีสัดส่วน 12% และกลุ่ม Premium Tea มีสัดส่วน 2% (ข้อมูล AC Nielsen เดือนเมษายน 2564 – มีนาคม 2565) ขณะที่ผลการดำเนินงานของธุรกิจเครื่องดื่มของโออิชิในครึ่งปีแรกของปี 2564-2565 (วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 มีนาคม 2565) มีรายได้จำนวน 3,443 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.9% จากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563-2564 (ข้อมูลจาก บมจ.โออิชิ กรุ๊ป ณ วันที่ 31 มี.ค 2565) โดยธุรกิจเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์โออิชิยังครองอันดับหนึ่งในตลาดชาพร้อมดื่มด้วยส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 สูงถึง 45% (ข้อมูลจาก AC Nielsen ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 – มีนาคม 2565) นอกจากนี้ ในตลาดต่างประเทศก็ยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมา ผ่านกิจกรรมโปรโมชั่นที่โดนใจผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่น รวมทั้งการสร้างการรับรู้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “โออิชิ พลัสซี” ผ่านนักแสดงวัยรุ่นจากซีรีส์สุดฮิตของประเทศลาว

สำหรับ ข้อมูลของ AC Nielsen ในเดือนเมษายน 2564 – มีนาคม 2565 พบว่าตลาดชาพร้อมดื่มมีมูลค่า 11,814 ล้านบาท หรือประมาณ 5% ของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีอัตราการเติบโตสูงถึง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่มีการเติบโตติดลบ 3.3% โดยโออิชิ กรีนที เป็นผู้ขับเคลื่อนตลาดชาพร้อมดื่มด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 45% หรือคิดเป็น 5,443 ล้านบาท และอัตราการเติบโต 13% สูงกว่าการเติบโตของตลาดชาพร้อมดื่ม (ข้อมูลจาก AC Nielsen ไม่รวม on trade เดือนเมษายน 2564 – มีนาคม 2565)