‘ทางหลวง’ ขานรับข้อสั่งการ ‘ศักดิ์สยาม’ เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมถนนทางหลวงแบบถาวร เผยเส้นทางใต้สัญจรได้ตามปกติแล้ว
“ทางหลวง” สนองข้อสั่งการ “ศักดิ์สยาม” แก้ปัญหาน้ำท่วมถนนทางหลวงถาวร พร้อมบูรณาการท้องถิ่น–ปชช. ด้าน“อธิบดี ทล.” ลงพื้นที่ภาคใต้ตลอดระยะทาง 150 กม. ลุยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมสูง ระบุวันนี้ 6 โมงเย็น สัญจรได้ตามปกติ
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า วันนี้ (14 พ.ย. 2564) ตนได้ลงพื้นที่ พร้อมด้วย นายนพพร พิสุทธิมาน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 15 (ประจวบคีรีขันธ์), นายไพจิตร แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 16 (นครศรีธรรมราช), ทีมวิศวกรจากส่วนกลาง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชุมพร และผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจเส้นทางทางหลวงหมายเลข 41 ถนนเพชรเกษม ตั้งแต่ จ.ชุมพร–จ.สุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นเส้นทางหลวงสายหลักลงสู่ภาคใต้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11-13 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักมากในพื้นที่ จ.ชุมพร วัดได้มากกว่า 200 มิลลิเมตร(มม.) ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมทางหลวงหลายจุด โดยเฉพาะถนนเพชรเกษม จาก จ.ชุมพร ไป จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างกม.33+600-กม.34+000 พื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร เกิดน้ำท่วมสูงถึง 80-120 เซนติเมตร (ซม.) รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ต้องใช้เส้นทางจากสี่แยกปฐมพร อ้อมไปทาง จ.ระนองแทน ทำให้การจราจรติดขัด และชะลอตัว เป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร (กม.) และประชาขนที่สัญจรไปมาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่ในวันนี้ พบว่า สาเหตุเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอด 2 วันที่ผ่านมาประกอบกับการใช้พื้นที่ 2 ข้างทางเปลี่ยนไป ทำให้มวลน้ำสะสมจากทางด้านตะวันตกของถนนเพชรเกษมไหลมาทางด้านตะวันออกในทิศทางที่เปลี่ยนไปจากที่ได้ออกแบบก่อสร้างเปิดช่องระบายน้ำไว้ ทำให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำสวี แล้วออกไปสู่ทะเลฝั่งอ่าวไทยได้ไม่สะดวก รวมถึงระบายน้ำได้ช้า และเกิดการท่วมผิวทางจราจร
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ทล. โดยแขวงทางหลวงชุมพร ได้ระดมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือเครื่องจักร และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย รวมทั้งป้ายจราจร และไฟกระพริบเตือน ที่เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนแนวทางการแก้ไขถาวรในระยะต่อไปนั้น ได้สั่งการให้สำรวจทิศทางการไหลของน้ำ และการใช้พื้นที่ 2 ข้างทางในบริเวณดังกล่าวอย่างละเอียด
นอกจากนี้ ให้ไปดำเนินการสำรวจพื้นที่ที่มีลักษณะดังกล่าวในบริเวณอื่น พร้อมทั้งให้ทีมวิศวกรวิเคราะห์ และออกแบบเปิดช่องระบายน้ำให้มากขึ้นและกว้างขึ้น ขณะที่ในบางจุดต้องก่อสร้างเป็นสะพาน เพื่อให้การระบายน้ำได้เต็มที่ รวมทั้งยกระดับถนนที่ต่ำบางช่วงให้สูงขึ้น ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทุกมิติ เพื่อไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ล่าสุดพบว่า ในบริเวณดังกล่าว ไม่มีน้ำท่วมบนผิวทางจราจรแล้ว และได้เดินทางตรวจเส้นทางสาย 41 ถนนเพชรเกษม ไปจนถึง จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 150 กม. สภาพเส้นทางทั่วไปเป็นปกติ สามารถใช้การได้ดีไม่มีน้ำท่วม สำหรับสภาพภูมิอากาศ พบว่า ยังมืดครึ้ม และมีฝนตกบ้างเล็กน้อยตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามสถานการณ์โดยรวมในพื้นที่จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานีดีขึ้น โดยตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันนี้ (14 พ.ย. 2564) ทางหลวงสายหลักลงสู่ภาคใต้ และสายหลักสู่ทุกภาคทั่วประเทศ ได้เข้าสู่ภาวะปกติ สามารถเดินทางได้ทุกเส้นทาง
สำหรับสถานการณ์เมื่อเวลา 18.00 น. นายสราวุธ กล่าวว่า ได้รับรายงานทางหลวงถูกน้ำท่วม และดินสไลด์ จำนวน 3 จังหวัด 3 เส้นทาง ซึ่งสามารถสัญจรได้ตามปกติ มีบางเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไม่มาก โดย ทล. ได้เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และความปลอดภัยให้กับประชน ได้แก่
- ทล.3094 ช่วง ทางเข้านครชัยศรี กม.0+000-1+894 ขาเข้า และขาออก ระดับน้ำสูง 20 ซม. พื้นที่ อ.นครชัยศรีจ.นครปฐม
- ทล.327 ช่วง สี่แยกปฐมพร–แยกหมอเล็ก กม.1+100-2+000 ระดับน้ำสูง 10 ซม. พื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร
- ทล.4191 ช่วง ไชยา–เขาหลัก กม.2+697-3+102 ระดับน้ำสูง 5 ซม. พื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำให้ ทล. พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทางหลวงอย่างถาวร และวางแผนการฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการร่วมกับจังหวัด ท้องถิ่น และรับฟังความคิดเห็นประชาชน รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงในทุกช่องทาง ทล. ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำ ของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
หากต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1
