‘ศักดิ์สยาม’ สั่งหน่วยงาน ‘คมนาคม’ เฝ้าระวังสถาณการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ‘ทางหลวง’ พร้อมรับมือ-สแตนบายช่วยเหลือประชาชน 24 ชม.

ศักดิ์สยามสั่งหน่วยงานคมนาคมจับตาสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน ด้านทางหลวงสนองข้อสั่งการฯ พร้อมรับมือสแตนบาย 24 ชม. ฟากแขวง ทล.ชุมพรแนะเส้นทางสัญจรเลี่ยงผ่านเส้นทางน้ำท่วม ลุยอำนวยความสะดวก วอนผู้ใช้ทางปฎิบัติตามสัญญาณป้ายเตือน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาค เปิดเผยว่า ขณะนี้จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือได้พัดปกคลุมอ่าวไทย ส่งผลให้หลายพื้นที่จังหวัดในภาคใต้มีฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ได้แจ้งให้พื้นที่ 15 จังหวัด ภาคใต้ เช่น จังหวัดเพชรบุรี ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช สงขลาฯลฯ เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 12-14 .. 2564

ทั้งนี้ ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง(ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รายงานถึงผลกระทบจากอุทกภัยต่อการคมนาคมขนส่ง รวมถึงการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ พร้อมกับให้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเสี่ยง บริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนภายใน 24 ชั่วโมง (ชม.)

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจากสถานการณ์ฝนตกหนักและฝนตกสะสมหลายพื้นที่บริเวณภาคใต้ที่ส่งผลกระทบให้การจราจรในหลายเส้นทางโดยเฉพาะทางหลวงหมายเลข 41 ตอน เขาบ่อท่าทอง  .ทุ่งตะโก .ชุมพร

ทั้งนี้ จึงสั่งการให้ ทล. เร่งระบายน้ำและเร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง และติดตามสถานการณ์จากประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและทันท่วงที โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้รายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงฯ และประชาสัมพันธ์การดำเนินการไปยังสื่อมวลชนและประชาชนให้รับทราบ  พร้อมขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

ขณะที่ นายวัฒนะ โพธิ์นาคเงิน ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชุมพร กรมทางหลวง กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ ระดับน้ำยังคงที่และค่อนข้างเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 41 (ถนนเอเชีย41) ระหว่าง กม. 33+600-34+000 ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ในพื้นที่  .สวี .สวี .ชุมพร มีระดับน้ำสูง 80 ซม. การจราจรผ่านไม่ได้ โดยจะมีการประชุมร่วมมือกับทางจังหวัด เพื่อประสานงานหาแนวทาง แบะเตรียมแผนรองรับน้ำท่วมในเส้นทางดังกล่าว

ขณะนี้ แขวงฯ ได้ทำการปิดการจราจร สำหรับทางเลี่ยงขาล่องใต้ เมื่อถึงทางแยกปฐมพร .ชุมพร ให้เลี้ยวขวาโดยใช้ทางเลี่ยงสาย 4 (เพชรเกษมเดิม) ไปทางระนอง ซึ่งสามารถที่จะออกไปยัง .พังงา, ภูเก็ต, กระบี่ได้ และสามารถผ่านเข้าสุราษฎร์ธานี ด้วย ส่วนอีกเส้นทาง ผ่านทางระนองพระโต๊ะ.หลังสวน เพื่อออกมายังสาย 41 กม.62 ส่วนขาขึ้นกรุงเทพฯ เส้นทางแรกย้อนจาก .หลังสวนเลี้ยวซ้ายไป .พระโต๊ะ ไป .ระนอง อีกเส้นทาง คือ จาก .สุราษฎร์ธานีไป .พังงา โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม โดยได้รับความร่วมมือจากตำรวจทางหลวง, ปภ.จังหวัด, มูลนิธิอาสาสมัคร, อำเภอ และองค์กรส่วนท้องถิ่น ได้เข้ามาอำนวยความสะดวก

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดและหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง โทร.1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ Twitter กรมทางหลวง @prdoh1