ยังอ่วม! ‘ทางหลวง’ สรุปสถานการณ์น้ำท่วมถนนวันนี้ (3 ต.ค. 64) รวม 14 จังหวัด จำนวน 39 สายทาง จราจรผ่านไม่ได้ 29 แห่ง

ทางหลวงเผยสถานการณ์น้ำท่วมวันนี้ (3 .. 64) ช่วง 13.30 . พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ 14 จังหวัด จำนวน 39 สายทาง ระบุการจราจรผ่านไม่ได้ 29 แห่ง เร่งดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมสแตนบาย 24 ชม.

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม จึงได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ให้เร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง  พร้อมทั้งให้ติดตามเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและทันท่วงที และให้รายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงฯ รับทราบทุกวันและประชาสัมพันธ์การดำเนินการไปยังสื่อมวลชนและประชาชนให้รับทราบด้วย

ทั้งนี้ ทล.ได้เตรียมพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักร สะพานเบลีย์ และจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชนตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อีกทั้งช่วงนี้ยังอยู่ในฤดูฝนจึงกำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ กรณีน้ำท่วมสูงได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง หลักนำทาง ไฟกะพริบ จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ วางแท่งแบริเออร์ เรียงกระสอบทราย และกำแพงดินเพื่อชะลอน้ำ กรณีถนนหรือสะพานขาด/ชำรุด ได้เร่งติดตั้งสะพานเบลีย์เชื่อมทาง และกรณีดินไหล่เขาข้างทาง Slide ได้นำเครื่องจักรเขาเกลี่ยดินออกเพื่อให้ประชาชนสัญจรได้สะดวก

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งจุดให้บริการประชาชน จัดรถ Mobile Service ช่วยเหลือประชาชนกรณีรถเสียบนทางหลวง  ช่วยขนย้ายประชาชนและสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย จัดรถบรรทุกไว้บริการรับส่งประชาชนในพื้นที่ประสบภัย แจกจ่ายอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค และช่วยล้างทำความสะอาดเก็บกวาดบ้านเรือนเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนในพื้นที่น้ำลดน้ำ และได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกรณีเกิดภัยพิบัติให้ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสนับสนุนเครื่องมือเครื่องจักร ยานพาหนะ กรณีมีการร้องขอจากหน่วยงานอื่นๆ หรือประชาชน

สำหรับสถานการณ์ประจำวันนี้ (3 .. 2564) เมื่อเวลา 13.30 . พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุดจำนวน 14 จังหวัด 39 สายทาง รวม 66  แห่ง  การจราจรผ่านได้ 37 แห่ง ผ่านไม่ได้ 29 แห่ง โดยทางหลวงในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 14 จังหวัด ได้แก่ 1.ชัยภูมิ 2.ขอนแก่น 3.นครราชสีมา 4.นนทบุรี 5.สระบุรี 6.อ่างทอง7.สุโขทัย 8.ลพบุรี 9.กำแพงเพชร 10.พระนครศรีอยุธยา 11.สุพรรณบุรี 12.นครสวรรค์ 13.อุทัยธานี และ 14.ตาก

ทั้งนี้ การจราจรผ่านไม่ได้ 29 แห่ง ดังนี้ 1.ขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) คือ ทล. 2065 พลลำชี ช่วง กม.ที่33+000-34+500 ระดับน้ำสูง 10 ซม. 2.นนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) คือ ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้าต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 20-25 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับบางใหญ่ที่ กม.18+500 แทนแทน และทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้าต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000  ระดับน้ำสูง 15-20 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ที่ กม.16+600 ทดแทน

3.สระบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) คือ ทล.1 หนองแคหินกอง ช่วง กม.ที่ 85+143 (ทางลอดใต้สะพานระพีพัฒน์ทั้ง 2 ฝั่ง) ระดับน้ำสูง 40 ซม. และ ทล.3020  พระพุทธบาทหนองโดน ช่วง กม.7+301 (คอสะพานหนองโดนถูกน้ำกัดเซาะชำรุด การจราจรผ่านไม่ได้ ปิดการใช้สะพานทั้งสองฝั่ง 4.อ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) คือ ทล.33 นาคูป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 40 ซม.

อีกทั้ง ทล.32 นครหลวงอ่างทอง ช่วง กม.33+200 จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.(วัดค่าย) ระดับน้ำสูง 60 ซม., ทล.32 นครหลวงอ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ)   ระดับน้ำสูง 150 ซม. เส้นหลักผ่านได้ จุดกลับรถผ่านไม่ได้, ทล. 32 นครหลวงอ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้)  ระดับน้ำสูง 55 ซม. เส้นหลักผ่านได้ จุดกลับรถผ่านไม่ได้, ทล.32 นครหลวงอ่างทอง ช่วง กม.ที่ 43+719 (จุดกลับรถหลวงปู่ทวด๗ ระดับน้ำสูง 65 ซม.เส้นหลักผ่านได้ จุดกลับรถผ่านไม่ได้

5.ลพบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) คือ ทล.1 แยกโรงพยาบาลอานันทมหิดลโคกสำโรง ช่วง กม.ที่ 168+228-169+328 ระดับน้ำสูง 50 ซม.  ทางเลี่ยง .ลพบุรี เลี้ยวที่ กม.170 เข้าวัดหนองคู, ทล. 205 คลองห้วยไผ่เทศบาลลำนารายณ์ ช่วง กม.ที่ 68+000-กม.71+000 ระดับน้ำสูง 5 ซม. เดินทางไปลพบุรี ใช้ ทล.2  หรือ ทล.21 แทน, ทล. 2243 บัวชุมสี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 0+800 -2+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม., ทล. 3019 สามแยกโคกกระเทียมสถานีรถไฟโคกกระเทียม ช่วง กม.ที่ 1+750-กม.1+825 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทางเลี่ยงใช้ทางท้องถิ่นแทน และทล.3024  บ้านหมี่เขาช่องลม ช่วง กม.ที่ 5+600-กม.7+300  ระดับน้ำสูง 150 ซม. ทางเลี่ยงใช้ทางท้องถิ่นแทน

6.กำแพงเพชร (การจราจรผ่านไม่ได้ 7 แห่ง) คือ ทล. 1 ตอน โนนปอแดงปากดง ช่วง กม.ที่ 419+036 (จุดกลับรถคลองพะยอม) ระดับน้ำสูง 120 ซม., ทล. 1 ตอน โนนปอแดงปากดง ช่วง กม.ที่ 432+030 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 70 ซม., ทล. 1 ตอน โนนปอแดงปากดง ช่วง กม.ที่ 431+701 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 70 ซม., ทล.1117 ตอน คลองแม่ลายอุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 432+030 ดินสไลด์, ทล.1117 ตอน คลองแม่ลายอุ้มผาง ช่วงกม.ที่ 87+415 ดินสไลด์, ทล.1117 ตอน คลองแม่ลายอุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 83+220 ดินสไลด์, และ ทล.1117 ตอนคลองแม่ลายอุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 89+100 ดินสไลด์

7.พระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) คือ ทล. 347 บางกระสั้นบางปะหัน ช่วง กม.ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 40 ซม., ทล. 3263 อยุธยาไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 160 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล.3263 อยุธยาไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 150 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน

8.สุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) คือ ทล. 33 สุพรรณบุรีนาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 55 ซม., ทล. 340 สาลีสุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 100 ซม. 9.นครสวรรค์ (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) คือ ทล. 1 บ้านหว้าวังไผ่  ช่วง กม.ที่ 339+600 ใต้สะพานเดชาติวงศ์ระดับน้ำสูง 105 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน และ 10.ตาก (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) คือ ทล. 1175 ห้วยส้มป๋อยเจดีย์ยุทธหัตถี ช่วง กม.ที่ 55+300 คันทางทรุดตัว ใช้ทางเลี่ยง ทล.12 แทนเดินทางไป .บ้านตาก

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง@prdoh1