ผู้โดยสารโปรดทราบ! ขึ้นเครื่อง @‘ดอนเมือง’ เผื่อเวลาเดินทางเพิ่มอย่างน้อย 30-45 นาที ชี้ต้องตรวจเอกสารเพิ่ม สอดรับมาตรการจังหวัดปลายทาง
“ผอ.ดอนเมือง” แจ้งผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30-45 นาทีก่อนขึ้นเครื่อง หลังสายการบินต้องตรวจเอกสารเข้มงวด สอดรับมาตรการจังหวัดปลายทาง เตรียมถกด่วนสายการบินเย็นวันนี้ ถอดบทเรียน หวังปรับแก้ปัญหา พร้อมหวั่นปัญหาชนิดวัคซีนผู้โดยสาร หลังไฟเซอร์ยังไม่ระบุในเอกสาร
ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีการคลายล็อคการเดินทางข้าม จังหวัดมีผลตั้งแต่วันนี้ (1 ก.ย. 2564) เป็นวันแรก โดยในส่วนของท่าอากาศยานดอนเมือง พบว่า วันนี้มีเที่ยวบินให้บริการทั้งสิ้น 31 เที่ยวบิน มีสายการบินให้บริการแล้ว 2 สายการบิน คือ สายการบินนกแอร์ และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ส่วนสายการบินไทยแอร์เอเซีย จะเริ่มบินให้บริการในวันที่ 3 ก.ย. 2564

ขณะเดียวกัน แม้ในวันนี้จะมีเที่ยวบินให้บริการไม่มากนัก แต่ท่าอากาศยานดอนเมือง ต้องขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เดินทาง ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นจากเดิม ก่อนขึ้นเครื่องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง หรืออาจจะต้องเพิ่มขึ้นอีก 30-45 นาที เนื่องจากขณะนี้สายการบินจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจเอกสารเพิ่มเติม เนื่องจากแม้มีการขายล็อคการเดินทางแล้ว แต่จังหวัดปลายทาง โดยเฉพาะจังหวัดที่มีมาตรการเข้มงวดการเดินทางสูงสุด (แดงเข้ม) และจังหวัดอื่นๆ มีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่ปลายทางเมื่อเดินทางมาถึง มีเงื่อนไขในการตรวจและความต้องการเอกสารที่แตกต่างกัน
ควรเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นจากเดิม ก่อนขึ้นเครื่องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง เพราะสายการบินจะมีการตรวจสอบเอกสารเพิ่มขึ้น เนื่องจากบางจังหวัดระบุเรื่องการฉีดวัคซีนครบถ้วน 2 เข็ม บางจังหวัดมีเงื่อนไขที่จะต้องมีการกักตัวซึ่งผู้โดยสารจะต้องตรวจสอบเงื่อนไขการคัดกรองที่จังหวัดปลายทางให้ดี ขณะที่สายการบินก็ต้องมีการตรวจเอกสารเข้ม เนื่องจากหากเดินทางไปถึงแล้วไม่สามารถผ่านการตรวจสายการบินจะต้องรับภาระ ส่งผู้โดยสารกลับมาที่ต้นทางเดิม” ร.ท.สัมพันธ์ กล่าว
ร.ท.สัมพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาสำคัญ คือ เจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้างาน อาจยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการ โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีผู้โดยสารต้องการเดินทางในวันนี้เป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจาก ในช่วงการล็อกดาวน์ที่ผ่านมา สายการบินแต่ละแห่งได้หยุดทำการบินไป ประกอบกับมาตรการให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีการปฏิบัติงานที่บ้าน (Work From Home) ดังนั้นในช่วงเย็นวันนี้ ฝ่ายบริหารท่าอากาศยานดอนเมือง จะมีการประชุมหารือร่วมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ประกอบการสายการบิน เพื่อถอดบทเรียนจากการให้บริการในวันนี้ มาปรับปรุงบริการให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
รายงานข่าวจากท่าอากาศยานดอนเมือง ระบุว่า นอกจากปัญหาที่เกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว ที่จังหวัดปลายทางเมื่อผู้โดยสารเดินทางไปถึง ก็มีข้อติดขัดด้านเอกสารอีกข้อ กล่าวคือ บางจังหวัดมีการกำหนดหลักเกณฑ์ว่าผู้เดินทางจะต้องฉีดวัคซีนแล้ว โดยมีการระบุชื่อของวัคซีนในเอกสารคัดกรองปลายทางว่า เป็นวัคซีนชิโนแว็ค หรือวัคซีนเอสต้าเซเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนที่ฉีดส่วนใหญ่ในประเทศไทย
แต่มีผู้เดินทางบางรายมีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งขณะนี้ก็มีฉีดให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงในประเทศไทยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ที่มีการตรวจคัดกรองที่จังหวัดปลายทาง ไม่กล้าตรวจผ่านให้ผู้เดินทางเข้าจังหวัด เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์ ยังไม่มีชื่อระบุในเอกสาร กลายเป็นอุปสรรคในการเดินทางขณะนี้ และผู้ประกอบการสายการบินอยากให้คณะกรรมการควบคุมโรคในระดับจังหวัดเร่งปลดล็อคข้อจำกัดด้านเอกสารดังกล่าวโดยด่วน