ลุ้น ศบค.ชุดใหญ่ ไฟเขียวเปิดบินภายในประเทศ ก.ย.นี้ พร้อมเพิ่มที่นั่งผู้โดยสาร 70% ของความจุ ด้าน ‘ซอฟต์โลน’ คาดสรุปเสร็จใน 1 เดือน

กพท. หารือร่วม ศบค.ชุดเล็ก เห็นชอบหลักการผ่อนปรนการบิน เตรียมชง ศบค.ชุดใหญ่ไฟเขียว ประเดิมเปิดบินภายในประเทศ ..นี้ พร้อมลุ้นเพิ่มจำนวนที่นั่งเป็น 70% ของความจุ ด้านซอฟต์โลนเร่งหารือร่วมสายการบินคาดได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน

แหล่งข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า กพท.ได้หารือกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็ก เรื่องการผ่อนปรนด้านการบิน ซึ่งผลการหารือล่าสุดนั้น ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กมีมติเห็นด้วยในหลักการ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องเข้าสู่การพิจารณาของ ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หาก ศบค.ชุดใหญ่ มีมติเห็นชอบ คาดว่า จะสามารถเปิดให้สามารถทำการบินได้ใน .. 2564 นี้ โดยในเบื้องต้น จะให้ดำเนินการเที่ยวบินภายในประเทศก่อน

ขณะที่ ข้อเสนอจากภาคเอกชน ในการปรับจำนวนการบรรทุกผู้โดยสาร จากเดิมที่กำหนดให้บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน 50% ของจำนวนที่นั่งบนเครื่องบิน ให้ปรับเพิ่มเป็น 70% นั้น จะขึ้นอยู่กับการพิจารณามาตรการด้านสาธารณสุขของ ศบค. ในเรื่องการเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนมาตรการช่วยเหลือสายการบินนั้นกพท. ได้มีการหารือกับสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ช่วยเหลือโดยการลดค่าธรรมเนียมต่างๆ พร้อมทั้งมีการหารือในเรื่องมาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพื่อให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือด้วย

นอกจากนี้ ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ได้สั่งการให้ กพท.รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลกระทบต่อโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศที่อาจเกิดขึ้น จากกรณีที่สายการบินประสบสภาวะวิกฤตและยังไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเพียงพอจนบางรายอาจไม่สามารถประคับประคองให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยให้ กพท.เป็นเจ้าภาพดำเนินการร่วมกับสายการบินจัดทำรายงานการวิเคราะห์และความจำเป็นที่สายการบินจะต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ โดยเฉพาะในส่วนของวงเงินซอฟต์โลน ที่สายการบินร้องขอความช่วยเหลือในขณะนี้ รวมถึงการหารือร่วมกับผู้ประกอบการทุกภาคส่วน เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากที่สุด จากนั้น กพท. จะรวบรวมข้อมูลก่อนเสนอกลับไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาต่อไป โดยจะเร่งสรุปข้อมูลให้เร็วที่สุด หรืออย่างช้าคาดว่า จะแล้วเสร็จได้ภายใน 1 เดือนนับจากนี้