สวนกลับ! ‘ผู้ว่ารถไฟฯ’ โต้ ‘หมอวรงค์’ หลังโพสต์ภาพผู้รับเหมาร้อง จ่ายเงินซื้อแบบก่อนประมูลทางคู่ ‘เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ’ พร้อมเรียกความยุติธรรมให้องค์กร
“ผู้ว่ารถไฟฯ” สวนกลับ “หมอวรงค์” หลังโพสต์แฉเอกสารผู้รับเหมาร้องจ่ายใต้โต๊ะ ซื้อแบบประมูลทางคู่ “เด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ” ก่อนกำหนดเวลาการประมูล ลั่น! “พูดลอยๆ ไม่มีหลักฐาน” ชี้หากพิจารณาแล้วการรถไฟฯ เสื่อมเสีย เล็งแนวทางดำเนินการฟ้องร้อง พร้อมเรียกความยุติธรรมให้องค์กร
ตามที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้โพสต์รูปภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (Warong Dechgitvigrom) ซึ่งเป็นภาพการประเมินค่าใช้จ่ายในการเตรียมเอกสารการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ พร้อมระบุข้อความว่า ”ผมได้รับการร้องเรียน จากผู้รับเหมาในวงการรถไฟ ยืนยันถึงการต้องจ่ายเงินค่าซื้อ “ฝิ่น” ซึ่ง “ฝิ่น“หมายถึง การซื้อแบบก่อนกำหนดเวลา และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการอำนวยความสะดวกนั้น
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การโพสต์ข้อความดังกล่าว โดยยังไม่ทราบถึงข้อเท็จจริงนั้น จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้นำเสนอ ทั้งนี้ ตนขอตั้งคำถามว่า เหตุใดถึงไม่ออกมาระบุเลยว่า ใครซื้อกับใคร หรืออย่างไร ซึ่งมองว่า เรื่องนี้ไม่มีความยุติธรรม และทำให้เกิดความเสียหายกับการรถไฟฯ เป็นอย่างมาก
การพูดลอยๆ แบบนี้ จะต้องรับผิดชอบ ซึ่งไม่แฟร์กับการรถไฟฯ เลย การประมูลโครงการรถไฟทางคู่นั้น มีการซื้อซองตามกระบวนการของกรมบัญชีกลาง โดยเรื่องนี้ดำเนินการด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding เขาต้องเข้าใจก่อนว่า e-bidding มีกระบวนการอย่างไร เพราะฉะนั้นการที่จะพูดอะไร หรือการที่จะเชื่ออะไร จะฟังอะไรต้องรับทราบและเข้าใจกระบวนการก่อน ส่วนจะคำนวนราคาหรือถอดแบบออกมาคำนวนต้นทุนได้ในระยะเวลาเท่าไรทำไม่ไม่ไปถามเอกชน” นายนิรุฒ กล่าว
นายนิรุฒ กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้ การรถไฟฯ ได้ถูกโจมตีในประเด็นดังกล่าว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการได้แต่เมื่อการรถไฟฯ ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ก็คือ สิ่งที่ถูกต้องตามกระบวนการ ส่วนผู้ที่ได้รับการนำเสนอจากฝ่ายต่างๆ ในเรื่องดังกล่าว แล้วจะเชื่อฝ่ายใดนั้น มองว่า อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคน นอกจากนี้ เมื่อถามว่า การรถไฟฯจะมีการฟ้องร้องบุคคลที่ทำให้การรถไฟฯ เสื่อมเสียหรือไม่นั้น นายนิรุฒ กล่าวว่า หากพิจารณาแล้วว่า การกระทำดังกล่าว ทำให้การรถไฟฯ เสียหายจริง จะมีการพิจารณาว่า ต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป
บ้านเมืองต้องมีความยุติธรรม ไม่ใช่ว่าอยากจะว่าอะไร ใครก็พูดขึ้นมาโดยที่ไม่มีหลักฐาน พูดขึ้นมาลอยๆทำให้สังคมเชื่อกันไป เรื่องนี้เราต้องหาความยุติธรรมคืนมา โดยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของการรถไฟฯ ที่จะทำให้สังคมเข้าใจให้ครบถ้วน” นายนิรุฒ กล่าว
รายงานข่าวจากการรถไฟฯ ระบุว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) มูลค่า 72,921 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย–งาว ระยะทาง 104 กม. มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม มีผู้เอกสารฯ รวม 5 ราย คือ กลุ่มแรก มีผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย และกลุ่มที่สองมีผู้ซื้อเอกสารฯ 2 ราย โดยมีผู้ยื่นซองประมูล 2 ราย จากผู้ซื้อซองทั้งหมด 17 ราย โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า กิจการร่วมค้า ITD-NWR ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) หรือ ITD และบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เสนอราคาต่ำสุด 26,568 ล้านบาท จากราคากลาง 26,599 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 งาว–เชียงราย ระยะทาง 135 กม. มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม มีผู้เอกสารฯ รวม 4 ราย คือกลุ่มแรก มีผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย และกลุ่มที่สอง มีผู้ซื้อเอกสารฯ 1 ราย โดยมีผู้ยื่นซองประมูล 2 ราย จากผู้ซื้อซองทั้งหมด 18 ราย โดยกิจการร่วมค้า CKST JOINT VENTURE ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) หรือCK และบริษัท ซิโน–ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC เสนอราคาต่ำสุดที่ 26,900 ล้านบาท จากราคากลาง 26,913 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 เชียงราย–เชียงของ ระยะทาง 84 กม. มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม มีผู้เอกสารฯ รวม 4 รายคือ กลุ่มแรก มีผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย และกลุ่มที่สอง มีผู้ซื้อเอกสารฯ 1 ราย โดยมีผู้ยื่นซองประมูล 2 ราย จากผู้ซื้อซองทั้งหมด 16 ราย โดยกิจการร่วมค้า CKST JOINT VENTURE เสนอราคาต่ำสุดที่ 19,390 ล้านบาท จากราคากลาง19,406 ล้านบาท