‘จุรินทร์’ หารือ ‘นิวซีแลนด์’ ผ่านระบบ VDO Conference รุกจับมือร่วมฝ่าโควิด และเตรียมพร้อมไทยเจ้าภาพเอเปคในปีหน้า

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือรัฐมนตรีการค้านิวซีแลนด์ เตรียมส่งเสริมความร่วมมือเอเปคขับเคลื่อนการค้าในสถานการณ์โควิด-19 หนุนแถลงการณ์ร่วมเอเปค 3 ฉบับ และตอบรับเข้าร่วมประชุมกับภาคเอกชนเอเปค และการประชุมรัฐมนตรีการค้า ต้นเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมขอให้นำเข้าสินค้าจำเป็นในช่วงโควิด และสินค้าเกษตร ทั้งลิ้นจี่ ทุเรียน ลำไย และมังคุด เพิ่มขึ้น

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการหารือผ่านระบบทางไกล กับนายเดเมียน โอ คอนเนอร์ รัฐมนตรีการค้าและการเติบโตทางการส่งออกของนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 โดยยินดีและพร้อมสนับสนุนนิวซีแลนด์ในการจัดทำแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ปฏิญญาเอเปคเรื่องห่วงโซ่อุปทานวัคซีนโควิด-19 และร่างปฏิญญาเอเปคเรื่องการบริการเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีความจำเป็น เนื่องจากแถลงการณ์ฯ และปฏิญญาข้างต้น มีเนื้อหาที่กำหนดให้การค้าเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ควบคู่กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจในเอเปค

นายจุรินทร์ ยังได้แจ้งต่อรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ว่าได้ตอบรับการเข้าร่วมการประชุมกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค (ภาคเอกชนเอเปค) ในประเด็นการรับมือเศรษฐกิจต่อวิกฤติโควิดร่วมกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค และการประชุมรัฐมนตรีการค้า เพื่อร่วมกำหนดแนวทางเชิงนโยบายในการรับมือและฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับภูมิภาคต่อไป ระหว่างวันที่ 4 – 5 มิถุนายนนี้

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ได้เพิ่มเติมในประเด็นความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-นิวซีแลนด์ โดยได้ไขข้อกังวลของนิวซีแลนด์เรื่องการยกเลิกมาตรการนำเข้าหอมหัวใหญ่จากนิวซีแลนด์ภายใต้ TNZCEP ซึ่งได้แจ้งว่า ที่ผ่านมา ไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินการในเรื่องนี้มาตลอด โดยคาดว่าจะสามารถเสนอเรื่องการยกเลิกมาตรการนำเข้าให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ในเดือนกรกฎาคมนี้

นายจุรินทร์ เสริมว่า ในโอกาสนี้ ไทยได้ขอให้นิวซีแลนด์เพิ่มการนำเข้าสินค้าผลไม้ อาทิ ลิ้นจี่ ทุเรียน ลำไย และมังคุด ซึ่งเป็นสินค้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสุขอนามัยพืชและทางนิวซีแลนด์แล้ว และยังมีกลุ่มอาหารแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง รวมทั้งสินค้าที่ใช้ในทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยางจากไทย เช่น ถุงมือยาง ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นในช่วงโควิดและจะช่วยขยายการค้าระหว่างกันให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในปี 2563 การค้ารวมระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ มีมูลค่า 1,941.07 ล้านเหรียญสหรัฐ (60,357.88 ล้านบาท) โดยไทยส่งออกไปนิวซีแลนด์ มูลค่า 1,250.12 ล้านเหรียญสหรัฐ (38,628.99 ล้านบาท) และนำเข้าจากนิวซีแลนด์ มูลค่า 690.95 ล้านเหรียญสหรัฐ (21,728.90 ล้านบาท) สำหรับในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค. – มี.ค.) ปี 2564 การค้าระหว่างไทย-นิวซีแลนด์อยู่ที่ 645.74 ล้านเหรียญสหรัฐ (19,278.54 ล้านบาท) โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 12.11 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญจากนิวซีแลนด์ เช่น นมและผลิตภัณฑ์นม ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ อาหารปรุงแต่งสำหรับใช้เลี้ยงทารก เนื้อสัตว์ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เป็นต้น