ทอท. เข็นโปรเจ็กต์ 8.9 หมื่นล้าน เล็งเปิดประมูลภายในปี 64 ‘ดอนเมืองเฟส3-เทอร์มินัลเหนือ ทสภ.-ขยายด้านออก&ตก’

ทอท. จ่อชง ครม. ไฟเขียวขยายดอนเมือง เฟส 3 มูลค่า 3.2 หมื่นล้านภายใน ..นี้ ตั้งธงเปิดประมูลภายในปี 64 ฟากเทอร์มินัลด้านเหนือขยายออก&ตก 5.7 หมื่นล้าน ลุ้นประมูลปีนี้เช่นกัน พร้อมอัพเดทศูนย์ตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก คาดเปิดให้บริการช่วง ..-..นี้ ประเดิมกลุ่ม CLMV ช่วยดันรายได้ในปี 65

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาขยายท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงิน 3.2 หมื่นล้านบาทว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) หลังจาก ทอท. ได้เสนอรายงานการเปลี่ยนแปลงด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้พิจารณา โดยคาดว่า จะพิจารณาแล้วเสร็จภายใน มี.. 2564 จากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติภายใน .. 2564 และคาดว่า จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปี 2564

ขณะที่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) วงเงิน 4.2 หมื่นล้านบาทนั้น ในขณะนี้ อยู่ระหว่างการทบทวนผลการศึกษา ควบคู่กับโครงการพัฒนาส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารแห่งที่1 ด้านทิศตะวันตก (West Wings) และด้านตะวันออก (East Wings) วงเงิน 1.5 หมื่นบ้านบาท

ทั้งนี้ หาก ทอท.สามารถเสนอให้ ครม. พิจารณาได้ภายใน มี.. 2564 ก็คาดว่า จะเดินหน้าเปิดประมูลภายในปี 2564 โดยเป็นไปตามมติของคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขึดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 15 .. 2564 ที่ให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการทั้ง 3 แห่ง วงเงินรวมประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท

นายนิตินัย กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของศูนย์ตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนส่งออก (Certify Hub) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) นั้น เมื่อช่วงปลาย .. 2564 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้งบริษัทลูกภายใต้ชื่อ AOT TAFA Operator (AOTTO) มีทุนจดทะเบียนประมาณ 20-30 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นสัดส่วน 49% และสมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศ (TAFA) ถือหุ้นสัดส่วน 51%

โดยภายใน 6 เดือนหลังจากนี้ AOTTO จะดำเนินการปรับปรุง (รีโนเวท) ห้องตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าเกษตรก่อนขึ้นเครื่องบิน เพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศยุโรป (EU) จากนั้น จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายใน..-.. 2564 และจะเป็นการสร้างรายได้กับ ทอท. โดยจะเห็นเป็นรูปธรรมภายในปี 2565 ส่วนจะสร้างรายได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ต้องรอดูในอนาคตต่อไป

สำหรับแนวทางการดำเนินงานของ AOTTO นั้น มีการรวมตัวของภาคเอกชนในสมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่มีลูกค้าประกอบธุรกิจด้านสินค้าเกษตรที่เน่าเสียง่าย และต้องเก็บรักษาในระบบความเย็น ประมาณ 90% มาใช้บริการเช่น สินค้าเกษตร ผัก ผลไม้ อาหาร ยา เป็นต้น ขณะเดียวกัน ในเบื้องต้นจากการหารือกับกลุ่มลูกค้าเพื่อมาใช้บริการAOTTO นั้น ลูกค้าในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งประกอบไปด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ได้ให้ความสนใจเช่นเดียวกัน