ททท.ผนึก สทท.จัดโครงการ’เที่ยวทั่วไทย ร่วมใจช่วยชาติ’

 

บุญรพี ดำรงรัตน์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวยการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวว่า ในส่วนของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวนั้น ททท. ได้ดำเนินการมอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย “Amazing Thailand Safety & Health Administration” หรือ SHA เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว 10 สาขา เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร แหล่งท่องเที่ยว ศูนย์ความงาม เป็นต้น เพื่อเป็นบรรทัดฐานและเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยแก่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เป็นการเตรียมความพร้อมการกลับมาของนักท่องเที่ยวหลังจากวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย

ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ประกอบการในการให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนและสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) ที่จะต้องตระหนักในปัจจัยด้านสุขอนามัยเป็นหลัก และขณะนี้มีจำนวนผู้ประกอบการที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 6,600 ราย จากทั่วประเทศ และผ่านมาตรฐาน SHA จำนวน 5,095 ราย โดยมีสัดส่วนของผู้ประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ผ่านการตรวจประเมิน จำนวน 1,573 ราย ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่ได้รับมาตรฐาน SHA มากที่สุด รองลงมา ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จำนวน 803 ราย และจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 632 ราย และคาดหวังว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะได้รับเครื่องหมายมาตรฐานมากกว่านี้

นอกจากนี้ ททท. ยังได้ร่วมมือกับ สทท. ในการเสริมแกร่งผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลังโควิดคลี่คลายจัดโครงการ “เที่ยวทั่วไทย ร่วมใจช่วยชาติ” โดยมีการสัญจรไปทุกภูมิภาคเพื่อพบปะกับผู้ประกอบกสารท่องเที่ยว ได้แก่ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระยอง อุดรธานี และกรุงเทพฯ ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งการเข้ารับฟังปัญหาของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยภายในงานจะมีการจัด Workshop หัวข้อ “ทิศทางการท่องเที่ยวหลัง COVID – 19” ซึ่ง ททท. คาดหวังว่าการงานในครั้งนี้จะเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยเหลือภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในประเทศ สร้างความเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวไทยอยู่ในระดับปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยว และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบวิถีใหม่ New Normal เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรกในการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อไป

ด้าน ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หรือ สทท. กล่าวว่า สำหรับโครงการ “เที่ยวทั่วไทย ร่วมใจช่วยชาติ” นับเป็นโครงการพัฒนาศักยภาพ มาตรฐานการท่องเที่ยวและแนวทางการจัดการของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ระหว่างและหลังสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ (COVID-19 ) เป็นความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการท่องเที่ยว กรมอนามัย และ TCEB ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบในหลายภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้ภาคการท่องเที่ยวหยุดชะงักลงไปนั้น สทท.ในฐานะองค์กรซึ่งเป็นตัวแทนของเอกชนในการส่งเสริม พัฒนา แก้ปัญหา ยกระดับมาตรฐานบริการท่องเที่ยว และประสานงานกับภาครัฐเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ โดยจะมีการเดินสายจัดโครงการทั่วทุกภูมิภาค และจะทำการรวบรวมข้อมูลปัญหาจากผู้ประกอบการและภาคบริการเสนอต่อรัฐบาลในการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อไป ซึ่งคาดการณ์ว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้นหากมีการคิดค้นวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำเร็จในปี 2564 จึงจะสามารถฟื้นฟูกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้