‘มาบตาพุดเฟส 3’ เนื้อหอม!! นักลงทุนไทย-ต่างชาติ ร่วมชิง

ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค.2561 ที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติโครงการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน(PPP) ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 4 โครงการในวงเงิน 4.7 แสนล้านบาท โดยกำหนดให้ออกเงื่อนไขการลงทุน (TOR) และเปิดขายซองภายในเดือน พ.ย. นี้

กนอ.ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ซึ่งเป็น 1 ในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักในอีอีซี
ได้ประกาศเชิญชวนเอกชนเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา และจะเริ่มเปิดขายซอง TOR ดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 9-21 พ.ย. 2561 จากนั้น จะเปิดให้ภาคเอกชนที่ซื้อซองประกวดราคาเข้ารับฟังเงื่อนไขรายละเอียดของข้อกำหนดในวันที่ 27-28 พ.ย.2561 และจะมีการพิจารณาเพื่อคัดเลือกบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูล คาดว่าจะได้ผู้ชนะการประมูลในราวเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562

นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา กนอ.ได้เริ่มเปิดขายซองประกวดราคาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะ 3 อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะเปิดขายจนถึงวันที่ 21 พ.ย.2561 บรรยากาศวันแรกของการเปิดขายภาคเอกชนได้ให้ความสนใจและเริ่มทยอยเข้ามาซื้อซองอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเข้าร่วมพัฒนาโครงการดังกล่าวนี้ ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่มีมูลค่าการลงทุนสูงกว่า 50,000 ล้านบาท และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับประเทศและขับเคลื่อนการลงทุนมายังพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี

“ภายหลังจากที่ประกาศอย่างเป็นทางการในขั้นตอนการเชิญชวนภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา พบว่าบริษัทเอกชน เข้ามาติดต่อสอบถามรายละเอียดในการจัดเตรียมเอกสารเพื่อเข้าซื้อซอง ทั้งบริษัทจากไทย ญี่ปุ่น และจีน อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีของกลุ่มนักลงทุนไทยและต่างประเทศ”

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 นับเป็น 1 ใน 5 โครงการเร่งด่วนสำคัญ เพื่อรองรับการลงทุนในอีอีซี ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และเขตจังหวัดอื่นที่มีพื้นที่ต่อเนื่องกับ 3 จังหวัดดังกล่าว มีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น ประมาณ 55,400 ล้านบาท แบ่งเป็นภาครัฐ 12,900 ล้านบาท และภาคเอกชน 42,500 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่งทางนํ้า สนับสนุนภาคอุตสาหกรรม โดยจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถและเพิ่มความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลว รวมทั้งขยายการให้บริการท่าเทียบเรือสาธารณะเพิ่มขึ้น

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ช่วง ดังนี้ ช่วงแรก กนอ.จะร่วมลงทุนกับภาคเอกชนในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) และให้เอกชนที่ร่วมลงทุนได้สิทธิในการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือ (Superstructure) ประมาณ 200 ไร่ รวมมูลค่าลงทุนประมาณ 47,900 ล่านบาท แบ่งเป็น กนอ.ร่วมลงทุนเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิไม่เกิน 12,900 ล้านบาท และ ภาคเอกชน 35,000 ล้านบาท ได้แก่ การขุดลอกและถมทะเล พื้นที่ 1,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ 550 ไร่ และพื้นที่เก็บกักตะกอน 450 ไร่ การขุดลอกร่องนํ้าและแอ่งกลับเรือ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือ ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเรือก๊าซ รองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซได้ 10 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568

ช่วงที่ 2 จะเป็นการลงทุนก่อสร้างท่าเรือ (Superstructure) โดยให้เอกชนลงทุนพัฒนาท่าเทียบเรือสินค้าเหลว รองรับปริมาณขนถ่ายสินค้าเหลวได้ 4 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 4,300 ล้านบาท และงานก่อสร้างพื้นที่หลังท่า จำนวน 150 ไร่ เงินลงทุน 3,200 ล้านบาท เพื่อรองรับธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

ทั้งนี้แผนการพัฒนาท่าเรือฯ มาบตาพุด ระยะ 3 คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2562-2568 โดยใน 3 ปีแรกจะเริ่มงานถมทะเล และก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และที่เหลืออีก 2 ปี เป็นการพัฒนาส่วนท่าเรือสาธารณะ การขนถ่ายก๊าซธรรมชาติ (LNG) รองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในอนาคต