‘ศักดิ์สยาม’ สั่งทำแผนรองรับงานก่อสร้าง ‘บิ๊กโปรเจ็กต์-รถไฟฟ้า’ ช่วงผลกระทบ ‘เคอร์ฟิว’ เร่งลุยงานเวลา ‘กลางวัน’ มากขึ้น

“ศักดิ์สยาม” จี้หน่วยงานในสังกัดฯ จัดทำแผน-มาตรการรองรับจากประกาศ “เคอร์ฟิว” หลังกระทบ “บิ๊กโปรเจ็กต์-รถไฟฟ้า” ล่าช้ากว่าแผน เร่งรัดลุยงานก่อสร้างช่วงกลางวันมากขึ้น สั่งรวมปัญหาเสนอ” คมนาคม” พร้อมช่วยประสานงาน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นนั้น ในส่วนของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศฯ ดังกล่าว ส่งผลให้แผนงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หรือล่าช้ากว่าแผน

ทั้งนี้ จึงมอบหมายให้ไปปรับแผนการก่อสร้าง เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งให้แต่ละหน่วยงานไปรวบรวมปัญหา อุปสรรค ที่จะทำให้เกิดความล่าช้า และหากพิจารณาแล้วว่า จะมีปัญหาเกิดขึ้น ต้องมีการประสานงานระหว่างหน่วยงาน ระหว่างกระทรวงของหน่วยงานนั้นๆ โดยจะต้องรีบแจ้งกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ช่วยประสานงาน และไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

“ที่มีหลายฝ่ายกังวลว่า ระยะเวลาการทำงานเหลือน้อย จากเดิมสามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ทั้งกลางวันและกลางคืน พอมีประกาศทำให้เข้าพื้นที่ก่อสร้างได้น้อยลง และส่งผลกระทบทำให้งานล่าช้านั้น ในเรื่องนี้เอกชนไม่ต้องกังวล เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องรวบรวบปัญหาอุปสรรคมาที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งตามระเบียบข้อกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีสาธารณภัย ระเบียบราชการมีเรื่องการขยายระยะเวลาอยู่แล้ว ซึ่งหน่วยงานจะต้องดูตามข้อเท็จจริงประกอบระเบียบข้อกฎหมายมาประกอบหากผู้รับจ้างได้รับผลกระทบที่เห็นชัดเจน” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ล่าสุด การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รายงานมาด้วยว่า สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า ของ รฟม. ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิวนั้น รฟม. ได้แก้ปัญหาโดยการได้ให้คู่สัญญางานก่อสร้าง จัดทำแผนเร่งรัดงานก่อสร้างในช่วงกลางวันให้มากขึ้น

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง ต่างได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิว เนื่องจาก เอกชนทุกรายพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ใช่เฉพาะเอกชนที่รับงานก่อสร้างเท่านั้น แต่เอกชนทุกธุรกิจทุกกลุ่ม ต่างได้รับผลกระทบทั้งหมด ซึ่งการก่อสร้างรถไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน กรณีงานก่อสร้างล่าช้านั้น หากเป็นสถานการณ์ภัยพิบัติ หรือโรคระบาดที่เป็นเหตุจำเป็น เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ภาครัฐก็จะมีมาตรการเยียวยา เช่นเดียวกับผู้ประกอบการในธุรกิจอื่นๆ

ขณะที่ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการ วิศวกรรมและก่อสร้าง รฟม. กล่าวว่า ขณะนี้ รฟม. อยู่ระหว่างการประสานงานขอความร่วมมือกับฝ่ายการจราจร และผู้รับเหมาก่อสร้างขอให้ปรับเวลาทำงานก่อสร้างมาอยู่ในช่วงเวลากลางวันมากขึ้น และจะลดกิจกรรมการก่อสร้างในช่วงกลางคืนลงให้เหลือไม่ถึง 20% เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับรัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบการก่อสร้างจริง เนื่องจากคนงานก่อสร้างไม่สามารถทำงานได้ตามใบอนุญาตที่กำหนดให้ทำการก่อสร้างตั้งแต่ 22.00-04.00 น. แต่ทั้งนี้ รฟม.และผู้รับเหมาจะพยายามลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด รวมถึงจะเร่งรัดการก่อสร้างให้เร็วขึ้น หลังจากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว โดยยังคงเป้าหมายการเปิดให้บริการตามเดิมอยู่ สำหรับความคืบหน้าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าขณะนี้ สายสีเหลือง คืบหน้าแล้ว 53.76% สายสีชมพู คืบหน้าแล้ว 53.81% สายสีส้ม 56.86%