พรุ่งนี้! ‘คมนาคม’ เสนอ ครม. ไฟเขียวกรอบวงเงินค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์ ‘บางใหญ่-กาญฯ’ 1.37 หมื่นล้าน ลั่น! จ่ายครบจบภายในปีนี้

“คมนาคม” เตรียมเสนอ ครม.ไฟเขียวกรอบวงเงินเวนคืนมอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญฯ” 1.37 หมื่นล้านพรุ่งนี้ คาดจ่ายครบภายในสิ้นปีนี้ ด้าน “ศักดิ์สยาม” สั่ง ทล.เจรจาผู้รับเหมา เร่งงานแล้วเสร็จปี 65 ฟาก “ข้อพิพาททางด่วน” ลุยพิจารณา ลั่น!ปีนี้ต้องจบ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงินประมาณ 6 หมื่นล้านบาทว่า ล่าสุด กรมทางหลวง (ทล.) ได้รับความเห็นจากกฤษฎีกาถึงโครงการดังกล่าวว่า เป็นเรื่องการบริหารของ ทล. ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาด้านกฎหมาย โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ต.ค. 2562) จึงเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบเพิ่มกรอบวงเงินงบประมาค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินจาก 5,420 ล้านบาทที่ ครม. ได้เคยพิจารณาอนุมัติไปแล้วนั้น เป็นวงเงินประมาณ 13,700 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ในส่วนของกรอบวงเงินดังกล่าวนั้น เนื่องจากภายหลังพิจารณาราคาที่ดินแล้ว พบว่ากรอบวงเงินสามารถลดลงได้ประมาณ 500 กว่าล้านบาท จากเดิมที่ตั้งวงเงินไว้ที่ 14,217 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หาก ครม. พิจารณาเห็นชอบในวันพรุ่งนี้นั้น จะสามารถเริ่มจ่ายค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน และครบทั้งหมดภายในสิ้นปี 2562 จากนั้นจะเริ่มเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ทันที ขณะที่ ข้อเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการเพิ่มวงเงินค่าเวนคืนนั้น สามารถดำเนินการอุทธรณ์ได้หลังจาก ครม.มีมติอนุมัติแล้ว แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎระเบียบที่กำหนดไว้

สำหรับในส่วนของงบประมาณดังกล่าว ที่จะนำไปจ่ายค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินนั้น ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ โดยยืนยันว่า หาก ครม.มีมติพิจารณาเห็นชอบ สามารถดำเนินการจ่ายให้กับประชาชนได้ทันที เนื่องจากมีการจัดสรรแบ่งงบประมาณก่อสร้างคงเหลือของปีงบประมาณ 2561-2562 ไว้แล้ว นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ ทล. ไปเจรจากับผู้รับเหมา เพื่อปรับแผนและเร่งรัดการดำเนินการให้เร็วขึ้น ซึ่งกำหนดกรอบเวลาไว้ว่า ให้แล้วเสร็จภายในปี 2565

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงกรณีข้อพิพาททางด่วนว่า จากการพิจารณาของคณะทำงานโดยมีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา และการรวบรวมเอกสารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มาประกอบการพิจารณา เช่น มติ ครม., รายละเอียดของสัญญา, การดำเนินการของ กทพ. เป็นต้น ทั้งนี้ กรอบในการพิจารณานั้น จะต้องพิจารณาว่าการคิดคำนวนค่าเสียหาย มีที่มาจากส่วนใด รวมถึงกระบวนการในการดำเนินการ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และหากมีความเสียหายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม คาดว่าเรื่องดังกล่าว จะจบภายในสิ้นปีนี้