“ศุภสิน ลีลาฤทธิ์” โชว์โมเดลญี่ปุ่นของสะสมสุดหวง!!

 

ปัจจุบันโมเดลการ์ตูนญี่ปุ่น กลายเป็นสวรรค์ของนักสะสม และได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบในตัวการ์ตูนซูเปอร์ฮีรี เช่นเดียวกับ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีจี โฟสต กล๊าส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวัสดุก่อสร้าง บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด(มหาชน)  ซึ่งนอกจากจะเป็นหัวเรื่อใหญ่ในกลุ่ม บางกอกกล๊าส แล้ว ยังเป็นที่รู้จักในวงการฟุตบอลในฐานะรองประธานสโมสรบางกอกกล๊าสและอุปนายกสมาคมฟุตบอลไทยนอกจากงานหลักในฐานะผู้บริหารแล้ว ยังมีงานอดิเรกยามว่างด้วยการต่อโมเดลการ์ตูนญี่ปุ่นวันนี้จึงกลายเป็นนักสะสมโมเดลการ์ตูนญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งในเมืองไทย

“เริ่มจากไปญี่ปุ่นกับลูก เขาซื้อโมเดลกันพลามาหนึ่งตัว แต่ต่อไม่เสร็จแล้วให้ผมต่อให้เสร็จ หลังจากนั้นก็มาอยู่ที่พ่อ ตอนนั้นเขาอยู่แค่ม.1  ตอนนี้ลูกโตแล้วครับ เรียนคณะทันตแพทย์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ตอนแรกเราไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย แต่พอต่อเสร็จเราก็รู้สึกภูมิใจ มันฝึกสมาธิได้นะ”

หลังจากวันนั้น คุณศุภสิน จึงเริ่มสะสมโมเดลการ์ตูนญี่ปุ่นมาเรื่อยๆ และเกือบทุกชิ้นซื้อมากจากประเทศญี่ปุ่น“เมืองโอซากะ จะมีแหล่งที่สะสมโมเดลกันพลา ทำให้ผมเลยเทิดมาจนถึงวันนี้ด้วยความไม่ได้ตั้งใจ เห็นตัวไหนสวยก็ซื้อตัวนั้นมา บางส่วนคือ กาชาปองเป็นจิ๊กซอว์ที่จะเอามาต่อเป็นตัวใหญ่ๆ ความยากของกาชาปองคือต้องไปหยอดเหรียญให้ได้ชิ้นส่วนครบทุกชิ้นแล้วนำมาต่อเข้าด้วยกัน  แต่ผมจะมีทางลัดคือไปที่ร้านขายของที่ระลึกที่ขายกาชาปองที่ครบเซ็ทแล้วเพราะมีเป็นพันๆชิ้น”

“ผมจะเก็บภาพรวมเสียมากกว่าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ เราก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเก็บ มันมาทีละตัวสองตัวหันมาดูอีกทีมันมีเยอะโดยไม่รู้ตัว  อย่างตัว  series 8 เป็น Classic everlandรวมตัวกันสวยดี ถ้ามันอยู่ตัวเดียวก็คงดูธรรมดา ที่ญี่ปุ่น ตัวเก็ตเตอร์ ถือว่าเป็นการ์ตูนคลาสสิคอุลตร้าแมนก็จะคลาสสิคGundam Original ผมไม่รู้จักหรอกนะแค่สะสมเฉยๆ ผมต้องไปเดินหลายๆร้านราคาไม่ได้แพงบางตัว 100 กว่าบาท” คุณศุภสิน เล่าถึงโมเดลการ์ตูนที่สะสมสำหรับแผนชีวิตในอนาคต คุณศุภสิน บอกว่า ตอนนี้พอใจกับสิ่งที่เป็นวันนี้พอใจกับสิ่งที่ทำวันนี้  ไม่ว่าในอนาคตจะทำอะไรคงเริ่มที่ครอบครัวเพราะการทำอะไรด้วยกัน จะมีแรงสนับสนุนกันไปเป็นทีมเวิร์ค

สำหรับในฐานะผู้บริหาร คุณศุภสินมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมแก้วมากว่า 20 ปีทำให้ได้รับการยอมรับและความไว้วางใจทั้งในแวดวงธุรกิจและอุตสาหกรรมซึ่งถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจในเครือบริษัทบางกอกกล๊าสจำกัด (มหาชน)เริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557  บางกอกกล๊าสได้ริเริ่มการดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายกระจกแผ่นนำเข้าจากต่างประเทศ ต่อมาได้เริ่มผลิตกระจกแผ่นภายใต้แบรนด์ BGF จนธุรกิจกระจกเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเขาจึงเข้ามาบริหารงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของ BGF อย่างเต็มตัวซึ่งปัจจุบันได้ต่อยอดจากธุรกิจกระจกไปสู่ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง

“จริงๆผมเข้ามา BG เริ่มจากเป็นเซลล์ขายต่างจังหวัด อิฐแก้วเจ้าแรกของประเทศไทย เมื่อ 27 ปีที่แล้ว จากเซลล์ธรรมดาจนมาได้ดูแลการตลาดอิฐแก้ว ต่อมาดูโปรดักส์ขวด และโลจิสติกส์ก่อนขยายมาดูแลด้านไอทีของบริษัท ทำให้ได้เรียนรู้ระบบงานได้ศึกษารายละเอียดแต่ละโครงการ เวลาเราแก้ปัญหาเราจะรู้แนวทางปฏิบัติ และให้คำแนะนำได้ถูกต้อง”

“ปัจจุบันบางกอกกล๊าสมีการขยายไปสู่การค้าปลีกหรือ B2c จากธุรกิจ B2B ที่ค้าขายกับบริษัทใหญ่เป็นหลัก การค้าปลีกกลยุทธ์การตลาดจะไม่เหมือนเดิมต้องเริ่มจาก Service Mind ก่อนเลย บางกอกกล๊าสไม่เคยมีอยู่เลย มันต้องเริ่มปรับเปลี่ยนนอกจากนี้เราเป็นโรงงานผลิต basic Glass ก็จะมีเป็นพวกกระจกพิมพ์สี ตอนนี้เรามีแผนบุกตลาดเวดดิ้งสตูดิโอ กำลังพยายามทำตลาดตรงนี้อยู่” ศุภสิน กล่าว