ด่วน! ครม.ไฟเขียวโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง ‘คมนาคม’ ครั้งใหญ่

ด่วน! ครม.ไฟเขียวแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ผู้บริหารคมนาคม ดัน “สราวุธ” คืนถิ่นนั่งบิ๊ก ทล. ด้าน “จิรุตม์” อธิบดี ขบ. พร้อมตั้ง “วิทยา” อธิบดี จท.

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการสามัญพลเรือนระดับ 10 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ประกอบด้วย นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมการขนส่งราง (ขร.) ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) แทนนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดี ทล. ที่โยกย้ายไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงคมนาคม ในส่วนของนายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แทนนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดี ขบ. ที่โยกย้ายไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงคมนาคม

ขณะที่ นายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) แทนนายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดี จท. ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2562 ด้านนางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม และนายสมัย โชติสกุล รองปลัดกระทรวงคมนาคม ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ สำหรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคมที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ มี 4 คน ได้แก่ 1.นายกฤชเทพ สิมลี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) 2.นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) 3.นายกมล บูรณพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม และ 4.นายณัฐ จับใจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม

ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สำหรับ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และกรมท่าอากาศยาน (ทย.) นั้น จะมีการเว้นว่างตำแหน่งอธิบดีไว้ โดยยังไม่มีการโยกเก้าอี้อธิบดีข้ามห้วยมานั่งเป็นอธิบดีคนใหม่ แต่จะเป็นการดันรองอธิบดีของแต่ละหน่วยขึ้นนั่งเป็นอธิบดีแทน ซึ่งคาดว่าจะมีการแต่งตั้งให้รองอธิบดีรักษาการในตำแหน่งอธิบดีไปพลางก่อน (ว.22) ส่วนด้านนางอัมพวัน วรรณโก อธิบดี ทย.นั้น แสดงความต้องการชัดเจนที่จะย้ายออกจากเก้าอี้อธิบดี ขอกลับมานั่งตำแหน่งในกระทรวงคมนาคม ยอมไปเป็นผู้ตรวจราชการแบบสมัครใจ

ขณะที่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การโยกย้ายดังกล่าวนั้น ถือเป็นการโยกย้ายตามความเหมาะสมของผู้บริหารแต่คน และเป็นไปตามวาระที่จะต้องมีการแต่งตั้งอยู่แล้ว ส่วนตำแหน่งที่ว่างอยู่ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหาต่อไป ในส่วนของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจนั้น หลังจากนี้ก็จะต้องมีการเร่งดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) ต่อไป