WICE ตั้งบริษัทร่วมทุนถือหุ้นใหญ่ 40%

WICE ตั้งบริษัทร่วมทุนถือหุ้นใหญ่ 40% ในนาม “EUROASIA TOTAL LOGISTICS” ให้บริการ โลจิสติกส์ขนส่งข้ามแดนระหว่างจีน ฮ่องกง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเดิมรายได้ปีแรก        200 ล้านบาท ปูทางอนาคตดันเข้าตลาดฯ เผยภาพรวมธุรกิจยังไปได้ดี มั่นใจผลงานตามเป้า 30% ปริมาณงานบริการโตทุกช่องทาง ชูแบรนด์ WICE  เป็นที่รู้จัก หลังปรับโครงสร้างองค์กร ขึ้นแท่นผู้นำ โลจิสติกส์ตลาดเอเชีย

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน)( WICE )               ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมติให้บริษัทเข้าทำสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ชื่อ บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (EUROASIA TOTAL LOGISTICS CO., LTD.) หรือ ETL ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการ       จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 ก.ย.61 ที่ผ่านมา

โดยบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน จำนวน 70 ล้านบาท  แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 7,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท สัดส่วนการลงทุน แบ่งเป็น WICE ลงทุน 28 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 40% , Mr.Lee Yik Chieh (Malaysian) ลงทุน 21 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 30% และนางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย ลงทุน 21 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 30% โดยแหล่งเงินทุนของ WICE ที่ใช้สำหรับการร่วมทุนธุรกิจใหม่ครั้งนี้มาจากเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่งไม่กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทแต่อย่างใด

สำหรับการร่วมทุนจัดตั้ง ETL ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญของ WICE ในตลาดระดับนานาชาติ ด้วยการให้บริการโลจิสติกส์ขนส่งข้ามพรมแดน  (Cross-Border Transport Services) ระหว่างประเทศจีน ฮ่องกงและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในโมเดลเส้นทางการขนส่งข้ามชายแดน (Cross Border)  ตามเส้นทาง One Belt One Road ของจีน ที่เป็นจุดเด่นและแรงขับเคลื่อนการค้าสำคัญระหว่างประเทศของจีนในอนาคต พร้อมรองรับการขยายตัวของ E-commerce ในส่วนที่เป็นบริการระหว่างประเทศ

“การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจของ WICE ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายและยังสร้างประโยชน์ทางธุรกิจให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต พร้อมเปิดโอกาสการเติบโตในตลาดต่างประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ จากการมีเครือข่ายเส้นทางที่ครอบคลุมตั้งแต่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ลาว เวียดนาม ไปจนถึงจีน ถือเป็นแต้มต่อทางธุรกิจที่สำคัญ   ซึ่งจีนเป็นตลาดขนส่งขนาดใหญ่มีความต้องการด้านงานโลจิสติกส์สูง ทำให้มีโอกาสในการขยายฐานลูกค้า    พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยงานบริการด้านต่างๆ กับกลุ่มลูกค้าหลากหลายประเภท”นายชูเดช กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมทำการตลาดแนะนำบริการ Cross-Border Transport Services ของ ETL กับกลุ่มลูกค้าเดิม และกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ โดย ETL จะเริ่มสร้างรายได้ให้ WICE ตั้งแต่เดือนต.ค.61 เป็นต้นไป และจะรับรู้รายได้เข้าเต็มปีเป็นปีแรก (ปี 62) โดยตั้งเป้ารายได้เป็นปีแรกจาก ETL อยู่ที่ 200 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า (ปี 64-66) รายได้จาก ETL จะเติบโตขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท ด้วยการขยายโครงข่ายเส้นทางการขนส่งข้ามพรมแดนไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดไว้ ในอนาคตบริษัทคาดจะนำ ETL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป