‘คมนาคม’ เร่งจ่ายค่าเวนคืนที่ดินมอเตอร์เวย์ ‘บางใหญ่-กาญฯ’ จ่อเสนอครม.ไฟเขียวภายในเดือนนี้

“คมนาคม” เร่งจ่ายค่าเวนคืนที่ดินมอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญฯ” หลังกระทบชาวบ้านหนัก จ่อเสนอ ครม.ไฟเขียวภายในเดือนนี้ “ศักดิ์สยาม” ยันดำเนินการเร็วที่สุด ฟากชาวบ้านวอนช่วยเหลือด่วน ลั่น! ให้เวลาภายใน 2 สัปดาห์

นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 3 ตำบลท่ามะกา อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยภายหลังพูดคุยร่วมกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบการเวนคืนที่ดิน ในพื้นที่แนวก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรีว่า จากการร้องเรียนของประชาชนที่ยังไม่ได้เงินค่าเวนคืนที่ดินในโครงการดังกล่าว จากกรมทางหลวง (ทล.) ที่ขอปรับเพิ่มกรอบวงเงินอีก 7 พันล้านบาท รวมวงเงินเพิ่มเป็น 1.2 หมื่นล้านบาท หลังจากเคยได้รับมาแล้ว 5.42 พันล้านบาทนั้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา เป็นช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนรัฐบาล และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม ตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าว รายงานนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และจะนำเป็นวาระเร่งด่วน พร้อมทั้งยินดีที่จะแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงฯ และพรรคภูมิใจไทย ที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ หลังจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของ ครม.ต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถเสนอ ครม. ได้ภายในเดือนนี้ ขณะที่ ข้อเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการเพิ่มวงเงินค่าเวนคืนนั้น สามารถดำเนินการอุทธรณ์ได้หลังจาก ครม.มีมติอนุมัติแล้ว แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎระเบียบที่กำหนดไว้

ด้านนายธีระพงษ์ ผาสุดาภรณ์ ชาวบ้านในพื้นที่โครงการที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านรวมตัวกันเดินทางมาที่กระทรวงคมนาคมราว 80 คน เพื่อเรียกร้องเรื่องของปัญหาความล่าช้าในการเวนคืนที่ดินก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ซึ่งขั้นตอนการเบิกงบประมาณจ่ายค่าเวนคืน ล่วงเลยมาเป็นเวลาถึง 3 ปีแล้ว ตั้งแต่เริ่มทำเรื่องของบฯ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 3,000 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยในบางรายนั้น โดนค้างค่าชดเชยมากกว่าหลักล้านบาท หรือมากถึงหลักหลายสิบล้านบาท

“ชาวบ้านผู้มีรายได้น้อยยังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องถูกยึดที่ดินทำกิน และไม่สามารถนำที่ดินไปจำนองหรือเป็นหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่ปี 2551 ส่งผลให้ชาวบ้านยากจนเหล่านี้ ต้องผลัดถิ่นที่อยู่อาศัย ไปขอกู้หนี้ยืมสินจากสถาบันการเงินหรือแหล่งเงินกู้นอกระบบ สุดท้ายไม่มีความสามารถผ่อนจ่ายได้ เพราะรัฐบาลยังไม่จ่ายค่าเวนคืนให้ตามราคาประเมินที่ดิน กลายเป็นผู้คนไร้ที่อยู่อาศัยต้องกลับไปอาศัยที่ถิ่นกำเนิดในต่างจังหวัด เสียโอกาสทางรายได้และช่องทางทำมาหากินบนผืนที่เดิม” นายธีระพงษ์ กล่าว

ขณะที่นางสาวบุศราภรณ์ สุขแดง แกนนำชาวบ้านที่เดินทางมาเรียกร้อง กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องนั้น ต้องการให้รัฐบาลระบุเวลาที่ชดเชยในการจ่ายค่าเวนคืน เพื่อให้ประชาชนวางแผนการใช้เงินได้และบรรเทาความเดือดร้อน ที่ได้รับตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังต้องการค่าเวนคืนที่ยุติธรรม เนื่องจากงบประมาณการเวนคืนดังกล่าว ใช้ราคาที่ดินในตลาดเมื่อปี 2557 ซึ่งล่วงเลยมา 5 ปีแล้ว ส่งผลให้ราคาเวนคืนนั้น ไม่สอดคล้องกับราคาในปัจจุบันที่เพิ่มสูงกว่าเดิมถึง 5 เท่า จากเดิม 10 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน มีทั้งรถไฟฟ้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ต่อไปจะมีมอเตอร์เวย์และสนามบินนครปฐม ดังนั้นชาวบ้านที่ต้องยอมจำใจถูกเวนคืนที่ดิน จึงไม่สามารถซื้อที่ดินในบริเวณใกล้เคียงได้ในราคาเดียวกันกับที่เวนคืน เนื่องจากราคาที่ดินปรับสูงขึ้นไปมากแล้ว อย่างไรก็ตาม หากยังไม่มีความคืบหน้า จะกลับมาเรียกร้องใหม่ที่กระทรวงคมนาคม ภายใน 2 สัปดาห์นี้