‘ถาวร’ เชื่อ ‘การบินไทย’ กลับมามีกำไรใน 3 ปี – เล็งดึง OTOP ขายบนเครื่อง

“คมนาคม” วางเป้าการบินไทยต้องมีกำไรใน 3 ปี เน้นทำตลาด e-Commerce พร้อมดึงสินค้า OTOP ขึ้นเครื่อง หวังดูดเงินนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้าน “ดีดีบินไทย” ฟุ้ง! รายได้น้อยเพราะเครื่องบินเก่า พร้อมรับลูก เล็งนำร่อง “เสื้อใยกัญชง-ผ้าบาติก” ขายบนเครื่อง

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า เชื่อมั่นว่าการบินไทยจะกลับมามีกำไรได้ภายใน 3 ปี ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนฟื้นฟูองค์กร เพื่อแก้หนี้สะสมเป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งทางการบินไทยได้มีการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ “แผนมนตรา” โดยในเบื้องต้นจะต้องมีการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ พัฒนาการให้บริการ และการจัดหาเครื่องบินใหม่ รวมถึงในส่วนของการทำการตลาดในส่วนของธุรกิจครัวการบินไทย และปรับแผนสู่รูปแบบ e-Commerce รวมถึงการนำระบบ Digital มาใช้ให้มากขึ้น นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มในส่วนของสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ด้วย ขณะเดียวกัน การบินไทย ยังได้มีการรายงานว่าช่วงที่ผ่านมา ได้มีการใช้บัญชีกลางในกระบวนการหยุดขาดทุนไปแล้ว

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม ดีดีการบินไทย

ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ดีดีการบินไทย กล่าวว่า ปัญหาเรื่องกับดักรายได้ของการบินไทย เรื่องหลัก คือ เครื่องบินมีอายุมาก ส่งผลให้เครื่องบินไม่เพียงพอทำให้งานบริการคุณภาพต่ำ ผู้โดยสารหนีไปใช้บริการสายการบินอื่น จึงทำให้มียอดขาดทุนสะสมนับ 10 ปี ขณะนี้แผนจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ วงเงิน 1.35 แสนล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างัจดทำข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนเสนอมายังกระทรวงคมนาคมและขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ต่อไป ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากนี้ขั้นตอนจะใช้เวลาไม่นาน เพราะได้ดำเนินการมาเยอะแล้ว และมั่นใจว่าการบินไทยจะกลับมามีกำไรภายใน 3-5 ปี หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนแผนฟื้นฟูฯ เช่น การลดต้นทุน การเพิ่มรายได้ การทำตลาดแนวทางใหม่แบบดิจิทัล การขายสินค้าผลิตภัณฑืผ่าน e-Commerce รวมถึงกิจการครัวการบินไทย เป็นต้น

“ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีจะเป็นแกนหลักในการผลักดันรายได้นับจากนี้ โดยจะนำไปใช้ เพื่อให้ผู้โดยสารสะดวกสบายมากขึ้น เช่น การเปิดเช็คอินล่วงหน้าได้ 2 สัปดาห์หรือ 4-7 วันก่อนขึ้นเครื่องแบบสายการบินต่างชาติ จากปัจจุบันสามารถเช็คอินได้แค่ในวันเดินทาง ตลอดจนพัฒนางานบริการลูกค้าตั้งแต่พื้นดินถึงบนฟ้า” นายสุเมธ กล่าว

นายสุเมธ กล่าวต่ออีกว่า ประเด็นหลักที่ต้องการส่งเสริม คือ การนำสินค้า OTOP ของดีของเด่นประจำตำบล นำขึ้นไปขายบนเครื่องบิน หรือจะมีการเปิดหน้าร้าน ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติได้เห็นคุณค่าของผลิตภัณฑ์คุณภาพในไทย อีกทั้งยังสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยซึ่งเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ เพราะไม่ใช่เป็นเพียงการขายสินค้า แต่เป็นการเรื่องราวของวัฒนธรรมไทย เพิ่มมูลค่าสินค้าและแหล่งท่องเที่ยวต้นกำเนิดของสินค้าเหล่านี้

สำหรับ ผลิตภัณฑ์ที่สนใจเบื้องต้น คือ เสื้อใยกัญชง ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าหัตถกรรม  ที่มีคุณภาพสูงมากเป็นสิ่งีท่ชาวต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี จึงสามารถใส่คุณค่าความเป็นไทยในการขายได้ นอกจากนี้ ยังสนใจนำ “ผ้าบาติก” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาผ้าไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมของชาวไทยถิ่นใต้ได้อย่างมีเสน่ห์ เชื่อว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะไปทำแผนการตลาด OTOP แบ่งหมวดหมู่ประเภทสินค้าให้ชัดเจน ควบคู่ไปกับการทำมาตรฐานการขายแบบสากล คือ สินค้าต้องเหมือนกันกับตัวอย่างที่โฆษณา หรือเรียกว่าสินค้าตรงปก เพราะช่องทางการขายแบบนี้ผู้บริโภคอาจไม่สามารถทดลองใช้ได้ก่อนซื้อสินค้า