‘ศักดิ์สยาม’ ตั้ง KPI ประเมินผลงาน 1 เดือน จ่อดัน Grab ถูกกฎหมาย

“ศักดิ์สยาม” ลุยสางปัญหาคมนาคม สั่ง สนข.รวบรวมข้อมูลสถานะทุกหน่อยงานพร้อมตอบประชาชนได้ ตั้ง KPI ประเมินผลงานเดินหน้าหรือถอยหลัง มอบนโยบายเป็นทางการ 30 ก.ค.นี้ จ่อปลดล็อค GRAP ถูกกฎหมาย เร่งฟังข้อเรียกร้องผู้ประกอบการ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการรับฟังภารกิจของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมว่า ในวันที่ 18-19 ก.ค. 2562 แต่ละหน่วยได้มารายงานความคืบหน้าสถานะของแต่ละโครงการที่รับผิดชอบ รวมถึงโครงการที่จะดำเนินการในอนาคต โดยให้เวลาหน่วยงานละ 15 นาที ทั้งนี้ ได้สั่งให้แต่ละหน่วยจัดทำรายละเอียดภายใน 1 เดือน แล้วกลับมารายงานอีกครั้ง ซึ่งหลักการทำงานจะต้องพิจารณาตามกฎหมายให้รอบคอบ โดยในวันที่ 30 ก.ค. นี้ จะเรียกประชุมหัวหน้าหน่วย เพื่อมอบนโยบายอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ไปรวบรวมข้อว่าสถานภาพของทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจว่าสถานะของงานเป็นอย่างไรบ้าง โดยจะใช้เวลา 1 เดือนในการประเมินผลงาน ว่ามีความก้าวหน้าหรือถอยหลัง ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัด (KPI) ในการประเมินผลงานตัวเองด้วย หากงานถอยหลังแสดงว่าแย่ เพราะการทำงานต้องรวดเร็วช้าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าจะมีการโยกย้ายหรือไม่นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ยังไม่ถึงขนาดนั้น การจะโยกย้ายปรับเปลี่ยนบุคคลนั้น เป็นเรื่องที่จะพิจารณาภายหลัง โดยทราบมาว่าขณะนี้มีข้าราชการที่จะเกษียณอายุอยู่แล้ว

ขณะที่ นโยบายของพรรคภูมิใจไทย ที่ต้องการผลักดันให้บริการ GRAB ถูกกฎหมายนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ต้องร่วมกันหาแนวทางพิจารณาว่า จะเดินหน้าต่อไปได้ในทิศทางไหน เพราะขณะนี้ยังติดเรื่องของกฎหมายอยู่ ส่วนเรื่องแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อเปิดช่องนั้น ก็ต้องกลับมาพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องของม็อบแท็กซี่และวินจักรยานยนต์ที่ออกมาประท้วงนโยบาย GRAB ถูกกฎหมายนั้น กระทรวงคมนาคมจะเจรากับทุกฝ่าย ทั้งผู้ประกอบการและกรมการขนส่งทางบก หรือ ขบ. ว่าจะสามารถตกลงกันได้มากน้อยแค่ไหน ยืนยันว่าจะรับฟังข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการว่าต้องการอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องของการเยียวยาผู้ขับขี่ ทั้งนี้ ตนมองว่าแอพพลิเคชั่นเรียกรถแท็กซี่สาธารณะ Taxi OK ที่ ขบ. พัฒนามานั้นก็มีศักยภาพในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่มีคุณภาพเพียงพอเมื่อเทียบกับระบบแอพพลิเคชั่นของบริษัทเอกชน