เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) มอบหมายให้นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ แถลงข่าวร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการตลาดทุนและธุรกิจประกันภัย วุฒิสภา สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสมาคมประกันชีวิตไทย โดยสำนักงาน คปภ. ยืนยันธุรกิจประกันภัย มีความมั่นคง มีสภาพคล่องเพียงพอ พร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
นายอดิศร กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านประกันภัย เพื่อบริหารจัดการและช่วยเหลือประชาชน ในสถานการณ์ภัยพิบัติ พร้อมทั้งมีมาตรการเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยจัดให้มีช่องทางในการติดต่อประสานงานผ่าน สายด่วน คปภ. 1186 ซึ่งเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชาชนสามารถติดต่อสอบถามข้อมูล และให้ความช่วยเหลือด้านการประกันภัย อีกทั้งประชาชนยังสามารถเข้าไปที่ Facebook page ของสำนักงาน คปภ. จังหวัดในพื้นที่ เพื่อสอบถามรายละเอียดโดยสามารถติดต่อผ่านหมายเลขโทรศัพท์ทั้งของสำนักงานและของผู้อำนวยการ คปภ. จังหวัดในพื้นที่ได้โดยตรงเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าประชาชนจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ในกรณีที่กรมธรรม์ประกันภัยสูญหายในสถานการณ์ภัยพิบัติ ประชาชนสามารถใช้ชื่อ นามสกุล และหมายเลขบัตรประชาชน ในการตรวจสอบว่าตนมีกรมธรรม์กับบริษัทใดบ้าง ผ่านระบบศูนย์ข้อมูลกลางการประกันภัย (Insurance Bureau System) ของสำนักงาน คปภ. ยิ่งไปกว่านั้น สำนักงาน คปภ. ได้ประสานไปยังท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อขอข้อมูลผู้เสียชีวิตหลังจากที่มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว เพื่อนำมาตรวจสอบความคุ้มครองตามกรมธรรม์และติดตามประสานกับบริษัทประกันภัย เพื่อให้มีการจ่ายสินไหมทดแทนให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตโดยเร็วที่สุด ซึ่งมาตรการที่กล่าวมาทั้งหมดจะเป็นส่วนสำคัญในการเร่งดูแลและเยียวยาประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
นายอดิศร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. ได้มีการประชุมร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทยสื่อสารให้บริษัทประกันภัยเร่งรัดการพิจารณาค่าสินไหมทดแทนให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับการเยียวยาอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังได้กำหนดแนวทางในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัย รวมทั้งเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาเพื่อใช้ประกอบการยื่นเรียกร้องค่าสินไหม และได้มีการเผยแพร่ไว้ในหน้าเว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. โดยประชาชนสามารถเข้าได้ผ่าน www.oic.or.th
นอกจากนี้ นายอดิศรกล่าวยืนยันในตอนท้ายว่า ธุรกิจประกันภัยได้ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Climate Stress Test) เพื่อพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ ต่ออัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนและสภาพคล่องของบริษัทมาแล้ว ธุรกิจประกันภัยโดยรวม มีอัตราส่วนเงินกองทุนอยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดและยังมีสินทรัพย์สภาพคล่องเพียงพอ อีกทั้ง ภัยน้ำท่วม ก็เป็นภัยที่อยู่ในความคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นได้ตามรอบระยะเวลา ซึ่งบริษัทได้มีการบริหารความเสี่ยง และจัดทำประกันภัยต่อเป็นปกติแล้ว จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ธุรกิจประกันภัยมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพในการรองรับความเสียหายจากภัยพิบัติในครั้งนี้อย่างแน่นอน และทุกบริษัทมีความพร้อมในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อเยียวยาแก่ประชาชนผู้เอาประกันภัยให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
นายอดิศร กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง จึงได้เร่งออกมาตรการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยในทุกมิติ พร้อมบูรณาการร่วมกับภาคธุรกิจให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนผู้เอาประกันภัยอย่างเต็มที่ และจะอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนและมีการฟื้นฟู ความเสียหายด้วยระบบประกันภัยให้กลับคืนสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสำนักงาน คปภ. จะติดตามเสถียรภาพของธุรกิจประกันภัย ทั้งในมิติด้านความมั่นคงและสภาพคล่องอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความมั่นใจว่าระบบประกันภัยมีความพร้อมในการดูแลประชาชนผู้เอาประกันภัยอย่างเต็มที่และต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ”