‘มัลลิกา’ มอบ ทย. เร่งขยายรันเวย์ ‘ชุมพร-ระนอง’ รับโปรเจกต์ ‘แลนด์บริดจ์’ พร้อมสั่งชะลอโอน 3 สนามบินให้ ทอท.

“มัลลิกา” มอบนโยบาย ทย. เร่งขยายรันเวย์ 2 สนามบิน “ชุมพร – ระนอง” รองรับโครงการ “แลนด์บริดจ์” เน้นเชื่อมต่อการเดินทางกับการขนส่งภาคพื้น พร้อมสั่งชะลอโอน 3 สนามบินให้ ทอท. ส่งไม้ต่อรัฐบาลชุดต่อไปเป็นผู้พิจารณา ด้าน ทย. ลุยปรับภาพลักษณ์ 8 สนามบิน เล็งติดตั้งระบบสแกนใบหน้า “Biometrics” นำร่อง ”กระบี่“ ยกระดับองค์กรให้ทันสมัย

นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินงานและโครงการที่สำคัญของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) โดยเน้นการปรับปรุงภาพลักษณ์ภายในอาคารผู้โดยสารให้มีความสะอาด สว่าง สวยงาม อยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ในรูปแบบอัตโนมัติมาใช้อย่างเต็มรูปแบบในท่าอากาศยานที่มีความพร้อม และให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อการเดินทางกับการขนส่งภาคพื้น

นอกจากนี้ ยังเร่งขับเคลื่อนโครงการลงทุนที่สำคัญ รวมถึงมอบหมายให้ ทย. พิจารณาต่อเติมความยาวทางวิ่งท่าอากาศยานที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการท่าอากาศยาน สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ขึ้นสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการขนส่งสินค้าในพื้นที่และภูมิภาคใกล้เคียง โดยเฉพาะท่าอากาศยานชุมพร และท่าอากาศยานระนอง เพื่อเตรียมรองรับโครงการแลนด์บริดจ์

นางสาวมัลลิกา กล่าวต่อว่า ขณะที่ การโอนสนามบินภูมิภาค 3 แห่ง ของ ทย. ได้แก่ สนามบินกระบี่, สนามบินบุรีรัมย์ และสนามบินอุดรธานี ให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. หรือ ทอท. เข้ามาบริหาร ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น จากข้อมูลที่ได้รับ การโอน 3 สนามบินดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ทอท. จะสามารถพัฒนาได้ดีกว่า แต่ก็มีประเด็นเรื่อง ต้นทุนและค่าบริการ อัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ทอท. จัดเก็บ มีราคาสูงกว่า อัตราของ ทย. ซึ่งจะเป็นการโยนภาระให้ผู้โดยสารมากเกินไป ซึ่ง ทย. ยังมีศักยภาพในการบริหารจัดการเองได้ไม่มีปัญหาในการบริการแต่อย่างใด ดังนั้น จึงให้ ทย.ดำเนินการบริหาร 3 สนามบินไปตามเดิม ส่วนการทบทวนมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องนั้น อาจจะยังไม่สามารถนำเสนอในวาระรัฐบาลนี้ได้ คาดว่า จะต้องรอรัฐบาลใหม่ที่มีวาระการทำงานที่นานกว่านี้เป็นผู้พิจารณา และนำเสนอ ครม. ต่อไป

ด้านนายดนัย เรืองสอน อธิบดี ทย. กล่าวว่า ได้รับมอบนโยบายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อดำเนินการปรับปรุงภาพลักษณ์ท่าอากาศยาน โดยการนำเสนออัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการตกแต่งภายในอาคารที่พักผู้โดยสารนำร่อง 8 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง อุบลราชธานี ขอนแก่น กระบี่ อุดรธานี และบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณในปี 2569 แล้ว           

นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ซึ่งปัจจุบันติดตั้งแล้วทั้งหมด 7 ท่าอากาศยาน ได้แก่ท่าอากาศยานกระบี่ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช พิษณุโลก และตรัง ซึ่งในอนาคตกรมท่าอากาศยานมีแผนนำระบบ Biometrics มาใช้สำหรับการยืนยันตัวตน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรให้ดูทันสมัย โดยจะนำร่องที่ท่าอากาศยานกระบี่ก่อน สำหรับการให้ความสำคัญการเชื่อมต่อการเดินทางกับการขนส่งภาคพื้น ทย. จะเร่งดำเนินการขยายผลโครงการศูนย์ขนส่งต้นแบบส่งเสริมการบริการรถสาธารณะ โดยได้ดำเนินการแล้วที่ศูนย์ขนส่งผู้โดยสารท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี และท่าอากาศยานอุบลราชธานี

นายดนัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของการขยายความยาวทางวิ่ง ทย. ได้รับงบประมาณในการดำเนินการขยายความยาวทางวิ่ง ดังนี้ ท่าอากาศยานที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ได้แก่ ท่าอากาศยานชุมพร จากเดิม 45 x 2,100 เมตร เป็น 45 x 2,990 เมตร งบประมาณ 1,500 ล้านบาท และท่าอากาศยานแพร่ จากเดิม 30 x 1,500 เมตร เป็น 45 x 2,100 เมตร งบประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนท่าอากาศยานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ จากเดิม 45 x 2,100 เมตร เป็น 45 x 2,900 เมตร งบประมาณ 949.556 ล้านบาท ท่าอากาศยานตรัง จากเดิม 45 x 2,300 เมตร เป็น 45 x 2,990  เมตร งบประมาณ 1,775.7213 ล้านบาท และท่าอากาศยานระนอง จากเดิม 45 x 2,000 เมตร เป็น 45 x 2,400 เมตร งบประมาณ 592.085 ล้านบาท