รฟท.อัพเดทรถไฟสายใต้ หนุนท่องเที่ยว-ย่นระยะเวลา

รฟท.เผยความคืบหน้ารถไฟสายใต้หนุนการท่องเที่ยว ย่นระยะเวลาเดินทาง เผยต่างชาติแห่ใช้บริการ 90% ด้าน “วรวุฒิ” ลั่นเดินหน้าประมูลทางคู่สายใหม่ พร้อทเข็นแผนลงทุนทางคู่ 6 หมื่นล้าน เสนอรัฐบาลใหม่

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าการก่อสร้างเฉลี่ย 28% แบ่งเป็น ช่วงนครปฐม-หัวหิน คืบหน้า 33% ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ คืบหน้า 30% และช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร คืบหน้า 19% โดยเมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางจากสถานีกลางบางซื่อถึงสถานีชุมพร จะใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง ดังนั้นถือว่าโครงการรถไฟทางคู่เป็นเส้นทางที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 

โดยในเส้นทางรถไฟสายใต้นั้น ถือเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางถึง 90% ของผู้โดยสารทั้งหมด โดยเฉพาะการย่นระยะเดินทางจากกรุงเทพ-หัวหิน จะใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง จากเดิมที่ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 4-5 ชั่วโมง โดยรถไฟจะวิ่งความเร็วอยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เส้นทางรถไฟทางคู่สายใต้จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564 จากนั้นใช้เวลาติดตั้งงานระบบอีก 1 ปี ก่อนเปิดใช้ในปี 2565 ขณะเดียวกัน รฟท.มีแผนลงทุนก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้เฟส 2 ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท รถไฟทางคู่ ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา  วงเงิน 5.7 หมื่นล้านบาท และรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 48 กม. วงเงิน 8 พันล้านบาท

ในส่วนความคืบหน้ารถไฟทางคู่สายอีสานนั้น นายวรวุฒิ กล่าวว่า ในปีนี้จะเร่งออกแบบและผลักดันโครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ที่คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. อนุมัติ ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ช่วง บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม. วงเงิน 6.79 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟสายแรกที่เข้าสู่อีสานตอนกลาง โดยในพื้นที่ดังกล่าว ยังไม่มีรถไฟเข้าถึงมาก่อน ขณะที่อีกเส้นทางที่ ครม.อนุมัติไปแล้ว คือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 8.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกพระราชกฤษฎีกา หรือ พรฎ. เวนคืนพื้นที่ก่อสร้างคาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2567 โดยมีแนวเวนคืน 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย โดยแนวเส้นทางจะเริ่มต้นที่สถานีเด่นชัย จ.แพร่ มุ่งไปทางทิศเหนือ ผ่าน จ.ลำปาง พะเยา และเชียงราย สิ้นสุดที่ด่านพรมแดนเชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งพื้นที่เวนคืนจะมีเขตทางกว้าง 50 เมตร มีทั้งหมด 7,292 แปลง และที่ดิน 9,661 ไร่ ส่วนด้านการร่างขอบเขตเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) นั้น จะทำควบคู่กันไปเพื่อเปิดประมูล 

นายวรวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของเส้นทางรถไฟทางคู่ ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ในปีนี้ คือ แก่งคอย-คลอง 19-ฉะเชิงเทรา คาดว่าในอีก 1-2 เดือนจะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ และเส้นทางจิระ-ขอนแก่น ที่จะเปิดใช้เต็มเส้นทางในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ ด้านโครงการทางคู่ที่ส่งให้สภาพัฒน์พิจารณแล้วหากผ่านความเห็นชอบจะเสนอเข้าสู่ครม.ในรัฐบาลใหม่นั้น ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 3.7 หมื่นล้านบาท และรถไฟทางช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท