‘นกแอร์’ ฉลอง 21 ปี เปิดตัวความบันเทิง-ดีลสุดคุ้ม พร้อมขยายฝูงบินสู่ 30 ลำใน 5 ปี ลั่น! ออกจากแผนฟื้นฟูปี 70-71 แน่นอน

“นกแอร์” ครบรอบ 21 ปี เปิดตัว Nok Air Inflight Entertainment จับมือ Viu เอาใจผู้โดยสาร จัดเต็ม “Nok Deal” มัดใจสมาชิก Nok Fan Club เตรียมรับเครื่องบินใหม่ 2 ลำสิ้นปีนี้ ตั้งเป้าครบ 30 ลำใน 5 ปี คัมแบ็คเส้นทางบินต่างประเทศ “จีน-อินเดีย-เวียดนาม” พร้อมเปิดรูทใหม่ “บาหลี & มะนิลา” ต.ค.นี้ มั่นใจผลประกอบการโตเฉลี่ย 10-15% ตั้งธงออกจากแผนฟื้นฟูฯ ภายในปี 70-71

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอด 21 ปีที่ผ่านมา นกแอร์ได้ขนส่งผู้โดยสารไปแล้ว 70 ล้านคน โดยในวาระครบรอบ 21 ปีครั้งนี้ นกแอร์ได้เปิดตัว 2 บริการใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับทุกการเดินทาง ได้แก่ 1.Nok Air Inflight Entertainment (IFE) บริการด้านความบันเทิงบนเครื่องบินที่ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินไปกับเนื้อหาสาระและความบันเทิงระหว่างการเดินทางได้ผ่านอุปกรณ์สื่อสารส่วนตัวของตนเอง โดยนกแอร์ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์แพลตฟอร์มดูซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Viu (วิว) และผู้ให้บริการคอนเทนต์อื่นๆ รวมถึงเนื้อหาจากสายการบินนกแอร์เอง

2.Nok Deal แพลตฟอร์มสิทธิพิเศษใหม่สำหรับสมาชิก Nok Fan Club ที่กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อสร้าง Brand Loyalty ด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการพิเศษ, ส่วนลดบัตรโดยสารจากนกแอร์ สิทธิประโยชน์จากพันธมิตรทั่วประเทศ, บัตรคอนเสิร์ต และอีกมากมาย ที่ผู้โดยสารสามารถแลกผ่าน Nok Deal ได้โดยตรง นอกจากนี้ นกแอร์ยังเดินหน้าสร้างการจดจำแบรนด์ด้วยความเป็นมิตร ความใกล้ชิด และการใส่ใจในทุกความต้องการของผู้โดยสาร ด้วยภาพลักษณ์ “เพื่อนร่วมทางของคนไทย” ผ่านกิจกรรม CSR ท้องถิ่น และการกลับมาของ Nok Fan Club อย่างเต็มตัว 

นายวุฒิภูมิ กล่าวต่อว่า ในอนาคต “นกแอร์” ยังเตรียมขยายฝูงบินด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 737-800 พร้อมพิจารณาจัดหาเครื่องบินรุ่นใหม่เพื่อเสริมศักยภาพฝูงบิน โดยปัจจุบัน นกแอร์มีเครื่องบินทั้งหมด 14 ลำ ในจำนวนดังกล่าว มีเครื่องทำการบินประจำฝูงบินได้จำนวน 10 ลำ ซึ่งจากการเติบโตของการเดินทาง นกแอร์เตรียมรับมอบเครื่องบินเพิ่มอีก 2 ลำภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าหมายว่าจะทยอยรับมอบเครื่องบินใน 5 ปีนี้รวมกว่า 30 ลำ หรือเฉลี่ยปีละ 4 ลำ ดังนั้น จึงทำให้มีการประเมินว่าผลการดำเนินการจะโตเฉลี่ยปีละ 10-15%

ขณะเดียวกัน ปัจจุบันนกแอร์มีสัดส่วนผู้โดยสารที่เดินทางจะเป็นคนไทยกว่า 60% ต่างชาติ 40% และเที่ยวบินนกแอร์จะทำการบินไปยังทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองรอง ส่วนอัตราการบรรทุกปริมาณผู้โดยสารจะเฉลี่ยที่ 80% โดยภายใน ต.ค. 2568 นกแอร์มีแผนที่จะกลับไปเปิดเส้นทางบินต่างประเทศ คือ เส้นทางไปจีน เมืองหนานหนิง, เจิ้นโจว รวมถึงเส้นทางไปอินเดีย เมืองมุมไบ และเส้นทางเวียดนาม เมืองไซง่อน รวมทั้งจะเดินหน้าเปิดเส้นทางบินใหม่ ไปยังบาหลี อินโดนีเซีย และมะนิลา ฟิลิปปินส์ ซึ่งตอนนี้ นกแอร์ให้บริการมากกว่า 100 เที่ยวบินต่อวัน ครอบคลุมกว่า 15 เส้นทางบินภายในประเทศ

นายวุฒิภูมิ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์การบินที่เริ่มกลับมาเติยโตต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่า นกแอร์จะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ภายในปี 2570-2571 อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันได้ทยอยจ่ายหนี้ตามกำหนดเวลา ขณะนี้เหลือหนี้เพียง 400 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ จะทยอยจ่ายหนี้เฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมานกแอร์มีผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องมากว่า 9 ปี และมีผลการดำเนินงานกำไรกว่า 60 ล้านบาท โดยคาดว่า ปี 2568 นกแอร์จะสามารถทำรายได้เท่ากับปีที่ผ่านมาหรืออยู่ที่ประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาทแน่นอน