‘เอมิเรตส์’ รุกตลาดอาเซียนเต็มสูบ เปิด 2 เส้นทางใหม่สู่ ‘ดานัง-เสียมราฐ’ ดัน ‘กรุงเทพฯ’ ฮับการบินเชื่อมโลก-ประตูอาเซียน

“เอมิเรตส์” ฉลองครบรอบ 35 ปีในไทย รุกหนักตลาดอาเซียน เปิด 2 เส้นทางบินใหม่ “ดูไบ-กรุงเทพฯ-ดานัง และ ดูไบ-กรุงเทพฯ-เสียมราฐ” ดันกรุงเทพฯ ฮับการบินในภูมิภาค คาดปีนี้ ผู้โดยสารโตจากปี 67 มากกว่า 10% พร้อมอวดห้องรับรองพิเศษ SAT-1 “Emirates Lounge” มูลค่า 175 ล้าน ใหญ่ที่สุดนอกดูไบ ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ เตรียมนำเครื่องบิน Airbus A380 รีโนเวทใหม่ โชว์ที่นั่ง Premium Economy ยกระดับการให้บริการ

นายนาบิล ซุลตาน รองประธานบริหารฝ่ายบริหารผู้โดยสารและการบริหารระดับประเทศ สายการบินเอมิเรตส์ เปิดเผยว่า สายการบินเอมิเรตส์ ได้ดำเนินงานและให้บริการในประเทศไทยครบรอบ 35 ปี ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา เปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่จากดูไบ สู่จุดหมายปลายทางดานัง ประเทศเวียดนาม และเสียมราฐ (เสียมเรียบ) ประเทศกัมพูชา โดยมี กรุงเทพฯ เป็นจุดพักเครื่อง ซึ่งนับเป็นการขยายเครือข่ายเส้นทางการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพิ่มเติม โดยให้บริการครอบคลุม 23 จุดหมายปลายทางในภูมิภาคนี้ และเสริมสร้างบทบาทของกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางการขยายเครือข่ายที่สำคัญของเอมิเรตส์ในอาเซียน

สำหรับการเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ทั้ง 2 เส้นทางผ่านกรุงเทพฯ ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของสายการบินเอมิเรตส์ในภูมิภาคอาเซียน และยังเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของเราที่มีต่อประเทศไทย ในฐานะประตูยุทธศาสตร์เพื่อเชื่อมต่อในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ เส้นทางการบินใหม่ดังกล่าว คาดว่า จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า และความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และภูมิภาคอาเซียน พร้อมทั้งช่วยเพิ่มโอกาสแก่ผู้โดยสารจากยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ในการเที่ยวชมประเทศเวียดนามและกัมพูชาด้วย ทั้งนี้ กรุงเทพฯ ถือเป็นจุดหมายทางที่สำคัญ เป็นเมืองช้อปปิ้ง อีกทั้งประเทศไทย ยังมีความน่าสนใจในเรื่องของ Health Care ด้วย

นายนาบิล กล่าวต่อว่า เส้นทางดูไบ-กรุงเทพฯ-ดานังนั้น เอมิเรตส์ให้บริการเที่ยวบินสู่ดานังผ่านกรุงเทพฯ สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน (วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ และวันอาทิตย์) ซึ่งนับเป็นประตูสู่เวียดนามแห่งที่ 3 ของสายการบิน ต่อจากฮานอย และโฮจิมินห์ซิตี้ โดยเที่ยวบินสู่ดานังนี้จะใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบิน มีตารางเที่ยวบิน EK370 ออกเดินทางจากดูไบเวลา 09.00 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 18.25 น. จากนั้นจะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 20.10 น. ถึงดานัง เวลา 21.50 น. ส่วนตารางเที่ยวบิน EK371 (ขากลับ) ออกเดินทางจากดานัง เวลา 23.30 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 01.10 น. ของวันถัดไป จากนั้นออกจากกรุงเทพฯ เวลา 03.40 น. ถึงดูไบ เวลา 06.50 น.

ขณะที่ เส้นทางดูไบ-กรุงเทพฯ-เสียมราฐนั้น สายการบินจะให้บริการเที่ยวบินสู่เสียมราฐ (เสียมเรียบ) สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน (วันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์) มีตารางเที่ยวบิน EK370 ออกเดินทางจากดูไบ เวลา 09.00 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 18.25 น. จากนั้นจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เวลา 20.10 น. ถึงเสียมราฐ (เสียมเรียบ) ในเวลา 21.30 น. ส่วนตารางเที่ยวบิน EK371 (ขากลับ) ออกเดินทางจากเสียมราฐ (เสียมเรียบ) เวลา 23.50 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 01.10 น. ของวันถัดไป จากนั้นจะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 03.40 น. ถึงดูไบ เวลา 06.50 น.

ทั้งนี้ เครื่องบินที่ให้บริการ: เที่ยวบินนี้จะให้บริการด้วยเครื่องบิน Boeing 777-300ER ของสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชั้นโดยสาร ประกอบด้วยห้องโดยสารชั้นหนึ่ง (First Class) จำนวน 8 ห้อง, ที่นั่งชั้นธุรกิจแบบเอนนอน (Angle-flat Business Class) จำนวน 42 ที่นั่ง และที่นั่งชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ถูกออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ จำนวน 304 ที่นั่ง ขณะที่ ลูกค้าสายการบินเอมิเรตส์ที่ต้องการเดินทางแบบหลายเมือง โดยมีกรุงเทพฯ เป็นจุดเชื่อมต่อ ซึ่งปัจจุบันมีเที่ยวบิน 5 เที่ยวบินต่อวัน สามารถเชื่อมต่อไปยังดานังหรือเสียมราฐ (เสียมเรียบ) ได้อย่างสะดวกสบายและมีระดับ

สำหรับผู้โดยสารในระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ ลูกค้าพรีเมียมของเอมิเรตส์สามารถผ่อนคลายในห้องพักรับรองพิเศษที่เพิ่งเปิดใหม่ของสายการบินได้ ซึ่งห้องพักรับรองพิเศษผู้โดยสารสายการบินเอมิเรตส์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยห้องพักรับรองแห่งนี้เป็นห้องพักรับรองพิเศษของสายการบินที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่นอกดูไบ ด้วยมูลค่าการลงทุน 175 ล้านบาท มีพื้นที่รวม 1,454 ตารางเมตร และสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 250 คน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเอมิเรตส์ในการยกระดับประสบการณ์ภาคพื้นดินที่หรูหราเหนือระดับให้แก่ลูกค้า

นายนาบิล กล่าวอีกว่า สายการบินเอมิเรตส์เปิดให้บริการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2533 โดยปีนี้เป็นวาระครบรอบ 35 ปีของการดำเนินงานในประเทศไทย ปัจจุบันเอมิเรตส์ให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ และดูไบ วันละ 5 เที่ยวบิน โดยให้บริการด้วยเครื่องบิน Airbus A380 จำนวน 4 เที่ยวบิน และให้บริการด้วยเครื่องบิน Boeing 777-300ER จำนวน 1 เที่ยวบิน นอกจากนี้ สายการบินยังให้บริการเที่ยวบินระหว่างภูเก็ตและดูไบ วันละ 2 เที่ยวบิน พร้อมทั้งให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ และฮ่องกง วันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งเชื่อมต่อประเทศไทยกับกว่า 140 จุดหมายปลายทางใน 6 ทวีป อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา สายการบิน มีผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศไทย ไปยังจุดหมายปลายทางที่ให้บริการต่างๆ รวมประมาณ 500,000 คน และคาดว่า ในปี 2568 ผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% อย่างแน่นอน จากปัจจัยการเปิดเส้นทางบินเพิ่มดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ สายการบิน เตรียมยกระดับการบริการระดับพรีเมียม โดยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2568 เป็นต้นไป สายการบินจะให้บริการเที่ยวบินสู่กรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบิน Airbus A380 ที่ปรับปรุงใหม่ และมีการจัดระดับที่นั่งโดยสารทั้งหมด 4 ชั้นโดยสาร ซึ่งเครื่องบินลำนี้จะมีที่นั่งชั้น Premium Economy รวมถึงห้องโดยสารชั้นหนึ่ง (First Class) ชั้นธุรกิจ (Business Class) และชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ได้รับการยกระดับใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้ กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งใน 8 เมืองทั่วโลกที่ได้รับการให้บริการด้วยเครื่องบิน A380 รุ่นใหม่ และ Boeing 777 ที่ได้รับการตกแต่งภายในใหม่ทั้งหมดจากเอมิเรตส์