‘AZTH’ ควบ ‘SAGI’ พร้อมชื่อใหม่ ‘AAGI’ รุกตลาดประกันภัยเต็มสูบ ตั้งเป้าเบี้ยโต 10%

อลิอันซ์ ประกันภัย (AZTH) ประกาศควบรวม ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย (SAGI) พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “Allianz Ayudhya Capital PCL (AAGI) เดินหน้าขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในไทย พร้อมพัฒนาศักยภาพตัวแทนเตรียมออก 2 license เพิ่มยอดขาย ขณะที่ช่องทางอื่นเพิ่มผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครอบคลุม ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมเติบโต 10% มาจากประกันชีวิต 4% และประกันภัย 6%
นายไบรอัน สมิธ ผู้จัดการอลิอันซ์ ประจำประเทศไทย และในฐานะประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์อยุธยา แคปปิตออล และ บมจ.อลิอันซ์อยุธยาประกันชีวิต เปิดเผยว่า อลิอันซ์ ประกันภัย (AZTH)  ได้ประกาศการควบรวมศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย (SAGI)  อย่างเป็นทางการ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “Allianz Ayudhya Capital PCL (AAGI)” แต่ยังคงจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อ AYUD และยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนถือหุ้น 45%  ขณะที่ ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย (SAGI) เปลี่ยนชื่อเป็น อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) (Allianz Ayudhya General Insurance PCL)
สำหรับความร่วมมือของธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันภัยในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยเพิ่มขนาดการลงทุนและสร้างนวัตกรรมในประเทศ ทั้งยังสร้างให้เ กิดความมั่นใจว่าพันธมิตรจะร่วมกันกระตุ้นการเติบโตและมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้นให้กับลูกค้าในประเทศไทย ขณะเดียวกันยังถือเป็นการสร้างแบรนด์ให้เด่นชัดมากขึ้นในตลาด ประเทศไทย
“การขยายความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่สำหรับลูกค้าในประเทศไทยและสร้างการเติบโตในอนาคตที่มั่นคง ขณะนี้เราอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งมากขึ้นในการส่งมอบโซลูชันความคุ้มครองที่ครบครันภายใต้ชื่อ Allianz อีกทั้งยังเป็นตัวเปลี่ยนเกมธุรกิจสำหรับลูกค้าในประเทศและภาคประกันภัยในประเทศไทย เนืองจากประเทศไทยถือเป็นตลาดเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอลิอันซ์เอเชีย เพราะมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีการรุกตลาดประกันที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นความร่วมมือระหว่างอลิอันซ์ และ AYUD มีมาอย่างยาวนานเกือบ 2 ทศวรรษปี และในปัจจุบัน เราให้บริการลูกค้ามากกว่าหนึ่งล้านรายทั่วประเทศ” นายไบรอัน กล่าว
ขณะที่ด้านของพนักงานในไทยหลังจากที่มีการควบรวมกิจการจะทำให้มีมากกว่า 1.1 หมื่นราย ซึ่งบริษัทยังไม่มีแผนที่จะปรับลดแต่อย่างไร เนื่องจากอยู่ในระหว่างการขับเคลื่อนองค์กรใหม่ให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง และเป็นที่ยอมรับของลูกค้า นั่นคือเป้าหมายที่สำคัญในการก้าวเดิน ขณะที่รูปแบบการขายประกันภัย มองว่าในส่วนของพนักงานของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ที่จะต้องมีไลน์เซนขายทั้งผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญและรับรู้ว่าอะไรจะต้องไปยังไง ซึ่งทางอลิอันซ์ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับทางคปภ. เพื่อทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ในแง่ของช่องทางจำหน่ายมองว่าจะทำให้บริษัทสามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายออกไปได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และการที่เป็นคู่ค้ากับธนาคาร ยังทำให้เราสามารถนำเสนอสินค้าที่มากกว่าประกันชีวิต ซึ่งจะช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการด้านความคุ้มครองที่หลากหลายและครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ การควบรวมดังกล่าวยังส่งผลดีให้กับบริษัท เพราะทำให้บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวมเพิ่มขึ้น มาที่ 6,500 ล้านบาท และอันดับขยับขึ้นมาอยู่ที่ 10 ในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยจากเดิมที่ AZTH มีเบี้ยประกันภัยรับรวมประมาณ 3 พันล้านบาท ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 20 ขณะที่ SAGI มีเบี้ยรับประกันภัยรวมที่ 3.5 พันล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 19 ขณะที่ทั้งปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทจะเติบโตเพิ่มขึ้น 10% โดยมาจากประกันชีวิต 4% และประกันภัยที่เติบโต 6%