‘คมนาคม’ เปิดมาตรการคุมเข้มรถบัส 2 ชั้น จัดโซนนิ่งห้ามวิ่ง-ยกระดับ GPS หวังสร้างความปลอดภัยยั่งยืน

“สุรพงษ์” คลอด 5 มาตรการ ป้องกันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ เร่งจัดโซนนิ่งห้ามรถบัส 2 ชั้นวิ่งในเส้นทางเสี่ยง นำร่อง 3 เส้นทาง ทล.108-ทล.12-ทล.304 ตั้งธงเริ่มบังคับใช้ก่อนสงกรานต์นี้ ยกระดับ GPS ให้สื่อสาร 2 ทาง แจ้งเตือนผู้ขับขี่-ออกประกาศปรับปรุงระเบียบมาตรฐานรถ ลุยจับมือ ทล. กำหนดพื้นที่เสี่ยง-เปลี่ยนป้ายจราจรให้ชัดเจน พร้อมสั่ง ขบ. เรียกผู้ประกอบการรถโดยสาร 2 ชั้น จำนวน 7 พันกว่าคัน เข้าตรวจสภาพรถตามมาตรฐานความปลอดภัย

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเร่งรัดมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทาง (30) วันนี้ (4 มี.ค. 2568) ว่า จากกรณีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารคณะดูงานของเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ ประสบอุบัติเหตุเสียหลักพลิกคว่ำตกข้างทาง บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 บริเวณ ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตนั้น จึงได้กำหนดมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 5 มาตรการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต ทั้งในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การกำหนดมาตรฐานอุปกรณ์และรถโดยสาร ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งไปยังผู้ประกอบการให้นำรถโดยสารมาตรฐาน 2 ชั้น รวมประมาณ 7,000 กว่าคัน แบ่งเป็น รถโดยสารประจำทาง จำนวน 1,000 กว่าคัน และรถโดยสารไม่ประจำทาง จำนวน 5,000 กว่าคัน มาตรวจสภาพรถให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ขบ. กำหนด

สำหรับมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 5 มาตรการ ประกอบด้วย 1.การกำหนดเขตพื้นที่ (Zoning) รถโดยสาร 2 ชั้นไม่ประจำทาง ที่วิ่งในเส้นทางที่มีความเสี่ยง หรือมีความลาดชันเกิน 5% และมีข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เช่น เส้นทางทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 สายเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน, ทล.12 อ.แม่สอด จ.ตาก, ทล.304 เป็นต้น คาดว่า จะได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน โดยจะออกเป็นหลักเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อบังคับใช้กับรถโดยสารไม่ประจำทางก่อนเทศกาลสงกรานต์ 2568 นี้ 2.ศึกษายกระดับ GPS ใช้งานในเชิงป้องกันสื่อสาร 2 ทาง โดยสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในจุดที่มีความเสี่ยงและเกิดอุบัติเหตุ คาดว่า จะเริ่มดำเนินการใช้กับรถโดยสารไม่ประจำทางมาตรฐาน 2 ชั้นก่อนภายใน 4 เดือนนี้ พร้อมทั้งจัดทำ Safety Ratings รถโดยสารสาธารณะ และการเร่งรัดแผน/มาตรการด้านความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะให้มีความปลอดภัยทุกมิติ และเพิ่มความเข้มข้นหลักสูตรสำหรับผู้ขับรถบริเวณที่มีทางลาดชัน เช่น การใช้เกียร์ การตรวจสอบมาตรวัดแรงดันลม เป็นต้น

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า 3.การออกประกาศปรับปรุงระเบียบมาตรฐานรถโดยสารไม่ประจำทางให้เป็นมาตรฐานเดียวกับรถโดยสารประจำทาง อาทิ กำหนดให้มีผู้ขับรถ 2 คน (เดิมมี 1 คน) และพนักงาน 1 คน เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน ซึ่งสามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที 4.มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น อาทิ กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เพื่อปรับปรุงเครื่องหมายจราจรให้เห็นได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งระบุข้อแนะนำการขับขี่ขึ้น-ลงทางลาดชัน เช่น แนะนำให้รถขนาดใหญ่ใช้เกียร์ 2 ขณะขึ้น-ลงทางลาดชัน เป็นต้น อีกทั้งให้ ขบ.-ทล. ร่วมกันสำรวจพื้นที่จุดเสี่ยงทั่วประเทศ รวมถึงพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างจุดพักรถเพิ่มเติม โดยจัดทำเป็นแผนดำเนินงาน (Timeline) เสนอมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นวาระพิจารณาเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมและเป็นรูปธรรมต่อไป และ 5.บังคับใช้กฎหมาย ย้ายจุด Check Point รถโดยสารสาธารณะบน ทล.304 ไปอยู่อีกฝั่ง เนื่องจากปัจจุบันจุดดังกล่าวเส้นทางขาขึ้น – ขาล่องอยู่ฝั่งเดียวกัน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการขนส่งเข้าจุดพักรถโดยสารตามข้อบังคับพนักงานจราจรจังหวัดปราจีนบุรี

ขอเน้นย้ำให้ ขบ. ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยบูรณาการ่วมกับกรมทางหลวง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดทำแผนดำเนินงานและเร่งออกประกาศบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะนี้ซ้ำอีก เพื่อยกระดับความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทางอย่างยั่งยืนต่อไป” นายสุรพงษ์ กล่าว