‘สุริยะ’ สั่งหน่วยงาน ‘คมนาคม’ เร่งเบิกจ่ายงบปี 68 กว่า 2.44 แสนล้าน พร้อมเข็น 5 โปรเจกต์เปิดประมูลปีนี้-มอบ รฟม. เจรจาเอกชนเรื่อง 20 บาทตลอดสาย
“สุริยะ” สั่งหน่วยงานฯ เร่งเบิกจ่ายงบปี 68 มูลค่า 2.44 แสนล้าน หลังนายกฯ แจ้งทุกกระทรวงฯ แผนงานยังต่ำกว่าแผน ส่วน ”คมนาคม“ เบิกจ่ายแล้ว 3.9 หมื่นล้าน พร้อมดัน 5 บิ๊กโปรเจ็กต์ มูลค่ารวม 1.3 แสนล้านบาท เดินเครื่องเปิดประมูลภายในปีนี้ ส่วนค่ารถไฟฟ้านโยบาย 20 บาทตลอดสาย สั่ง รฟม เจรจาเอกชน เพิ่มส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐมากขึ้น
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อน และติดตามผลการดำเนินงานโครงการสำคัญตามนโยบาย ครั้งที่ 1/2568 วันนี้ (13 ก.พ. 2568) ว่า ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 และเดินหน้าการประมูลให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความกังวลถึงภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2568 ที่สำนักงบประมาณได้อนุมัติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งยังต่ำกว่าแผนทุกกระทรวง รวมวงเงิน 50,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 วงเงิน 244,576 ล้านบาท แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ 32,363.29 ล้านบาท และรายจ่าย 212,213.68 ล้านบาท โดยจากข้อมูล ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 พบว่า มีแผนการเบิกจ่ายสะสม วงเงิน 41,514 ล้านบาท คิดเป็น 16.97% และมีผลการเบิกจ่ายสะสม วงเงิน 39,857 ล้านบาท คิดเป็น 16.30% ช้ากว่าแผน 1,656 ล้านบาท คิดเป็น 0.67% ขณะที่การเบิกจ่ายงบลงทุน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 วงเงิน 212,213 ล้านบาท มีแผนการเบิกจ่ายสะสม วงเงิน 28,598 ล้านบาท คิดเป็น 13.48% และมีผลการเบิกจ่ายสะสม วงเงิน 28,081 ล้านบาท คิดเป็น 13.23% ช้ากว่าแผน 516 ล้านบาท คิดเป็น 0.25%
ขณะที่ การเบิกจ่ายงบรายจ่ายประจำ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 วงเงิน 32,363 ล้านบาท มีแผนการเบิกจ่ายสะสม วงเงิน 12,930 ล้านบาท คิดเป็น 39.96% และมีผลการเบิกจ่ายสะสม วงเงิน 11,776 ล้านบาท คิดเป็น 36.39% ช้ากว่าแผน 1,154 ล้านบาท คิดเป็น 3.57% ทั้งนี้ ผลเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ในส่วนราชการ จำนวน 9 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม,กรมเจ้าท่า,กรมการขนส่งทางบก,กรมท่าอากาศยาน,กรมทางหลวง,กรมทางหลวงชนบท,สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร,กรมการขนส่งทางราง,สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง เบิกจ่ายไปแล้ว 21,786 ล้านบาท คิดเป็น 11.27%
ด้านรัฐวิสาหกิจ จำนวน 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ,การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.),การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.),องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.),สถาบันการบินพลเรือน,บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เบิกจ่ายไปแล้ว 18,071 ล้านบาทคิดเป็น 35.28% รวมทั้ง 15 หน่วยงานมีการเบิกจ่ายอยู่ที่ 39,857 ล้านบาท คิดเป็น 16.30%
*** ดัน 5 โปรเจกต์ 1.3 แสนล้าน เปิดประมูลปีนี้ ***
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการที่กระทรวงคมนาคม จะเร่งรัดเปิดประมูลภายในปี 2568 จำนวน 5 โครงการ วงเงินรวม 134,199 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ช่วงถนนประเสริฐมนูกิจ – ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ระยะทาง 6.7 กิโลเมตร (กม.) มูลค่าลงทุน 16,960 ล้านบาท 2.โครงการทางพิเศษ สายกะทู้ – ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 14,670 ล้านบาท
3.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 5 (มอเตอร์เวย์ M5) ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน มูลค่าลงทุน 31,358 ล้านบาท 4.โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอน ทางยกระดับบางขุนเทียน – บางบัวทอง ระยะทางประมาณ 35.85 กม.วงเงินลงทุนโครงการ 56,035 ล้านบาท 5.โครงการส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงศิริราช – ตลิ่งชัน – ศาลายา ระยะทาง 20.5 กิโลเมตร วงเงิน 15,176 ล้านบาท
*** สั่ง รฟม. เจรจาเอกชน เพิ่มส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐมากขึ้น ***
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลเดินหน้านโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยนำร่องในสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ และสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน พบว่า ได้ผลตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี สะท้อนได้จากข้อมูลในช่วงที่ผ่านมาที่มีสถิติการมีผู้ใช้บริการสูงที่สุด (นิวไฮ) ตั้งแต่เปิดให้บริการโดยทั้ง 2 สายดังกล่าวมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 30-50% รายได้รวมกันอยู่ที่ 49.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และยืนยันว่า จะประกาศใช้ในโครงการรถไฟฟ้าทุกสี ทุกสาย และทุกเส้นทางภายใน ก.ย. 2568 ตามที่เคยกำหนดไว้นั้น
ดังนั้น จึงได้มีนโยบายสั่งการให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในฐานะเจ้าของสัมปทานรถไฟฟ้า MRT สีน้ำเงิน กับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในนามของกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ ที่ได้สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เพื่อพิจารณาแก้ไขสัญญาสัมปทาน เพื่อส่งส่วนแบ่งรายได้ที่จ่ายให้กับภาครัฐเพิ่มขึ้น หลังจากการดำเนินการนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แนวโน้มจะมีผู้โดยสาร และรายได้มากขึ้น โดยจะต้องไปหารือกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลรูปแบบการลงทุนของภาสครัฐว่า ในเมื่อรายได้เพิ่มขึ้น สามารถดำเนินการแก้ไขสัญญาในส่วนนี้ได้หรือไม่ ทั้งนี้ รฟม. จะต้องได้ข้อสรุปก่อนที่กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการทางปฎิบัติรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสายทางภายใน ก.ย 2568