การพิจารณาคัดเลือกรอบที่ 1
โดยคณะกรรมการจะพิจารณาจากข้อมูลในใบสมัครเบื้องต้น รวมถึงความครบถ้วนถูกต้องของหลักฐานเอกสารต่างๆ ที่แนบมาในใบสมัคร โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรก จะผ่านเข้ารอบที่สอง โดยจะต้องนำสินค้าตัวจริงมาจัดแสดงเพื่อทำการพิจารณาในรอบที่ 2 ต่อไป
การพิจารณาคัดเลือกรอบที่ 2
ขั้นตอนที่ 1 โดยคณะกรรมการจะเดินดูสินค้าทุกชิ้นในเบื้องต้นและลง คะแนนเลือกให้สินค้านั้น ผ่าน หรือ ไม่ผ่าน โดยพิจารณาจากพื้นฐานด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สินค้าที่ได้รับการโหวตจากกรรมการให้ผ่านครึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด ถือว่าผ่าน เข้ารอบสอง
ขั้นตอนที่ 2 การพิจารณาคัดเลือกโดยคณะกรรมการจะเดินดูสินค้าที่ผ่านเข้ารอบสองโดย ละเอียดและพิจารณาให้คะแนนด้านความเป็นเลิศในการออกแบบผลิตภัณฑ์ (100 คะแนน) ทั้งนี้ สินค้าที่มีคะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 80 ถือว่าสมควรได้รับรางวัล
เกณฑ์การพิจารณา ขั้นตอนที่ 2
- Design Story (20 points)
– ที่มาและแนวคิดในการออกแบบ (Design Concept/ Design Thinking)
– กลยุทธ์ในการออกแบบเพื่อนำผลิตภัณฑ์สู่ตลาด (Design to Market Strategy)
– แนวคิดที่นำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่า (Cultural Heritage Values) - Innovative Thinking (20 points)
– คิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Creativity)
– เป็นต้นแบบที่แตกต่างจากที่เคยมีมา (Novelty)
– มีผลกระทบต่ออนาคต (Future Impact)
– ใช้เทคโนโลยีหรือวัสดุใหม่ๆ (New technology or New Materials) - Emotional/Aesthetics (20 points)
– งดงาม (Aesthetics)
– ส่งเสริมรูปแบบการใช้ชีวิต (Enhancing Living Lifestyle) - User Impacts (20 points)
– ประโยชน์ใช้สอยที่ดี (Utilization)
– สะดวกสบายในการใช้งาน (Convenience/Comfortable and Ease of Use)
– ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค (Satisfying Consumer’s Needs)
– ปลอดภัย (Safety)
– ออกแบบเพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ใช้ได้หลากหลาย (Universal Design)
– ส่งเสริมให้ผู้ใช้มีความคิดสร้างสรรค์ (Stimulus to the User’s Creative thinking) - Social & Environmental Impacts (20 points)
– ใช้งานได้ยาวนาน (Long Lifetime/Durability)
– คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม (Socially Responsible)
– คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmentally-Friendly)