ทอท. เตรียมลงนามปี 68 ผนึกกำลัง 3 สนามบิน Sister Airport ‘เวียนนา-มิลาน-เซาท์เบนด์‘ หวังดึงผู้โดยสารยุโรปเข้าไทยมากขึ้น
ทอท. จัดประชุมสุดยอดผู้นำการบินโลก ระเบิดศักยภาพท่าอากาศยานไทย จ่อลงนาม 3 สนามบิน “เวียนนา-มิลาน-เซาท์เบนด์” ผนึกกำลัง Sister Airport คาดจรดปลายปากกาภายในปี 68 หวังดึงผู้โดยสารชาวยุโรปเข้าไทย พร้อมเล็งเจรจาแอร์ไลน์ เปิดไฟลท์บินตรง หนุนไทยศูนย์กลางการบินภูมิภาค
พลตำรวจเอก วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงอภิปราย AOT Sister Airport CEO Forum 2024 ภายใต้หัวข้อหลัก “Embracing the Next Chapter in Aviation Industry” ก้าวสู่บทใหม่ของอุตสาหกรรมการบิน วันนี้ (13 พ.ย. 2567) ว่า การประชุมในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอความพร้อมของท่าอากาศยานไทยในการก้าวไปสู่การพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินและท่องเที่ยวในภูมิภาค ที่ให้ความสำคัญในด้านนวัตกรรม และการเติบโตอย่างยั่งยืน
อีกทั้งยังเดินหน้าพัฒนาท่าอากาศยานให้มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และระบบอัตโนมัติ ไปจนถึงแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง ความคาดหวังของผู้โดยสารที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการจัดประชุมร่วมกับเครือข่าย Sister Airport ในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันในมุมมองที่หลากหลายเพื่อนำไปพัฒนาแต่ละท่าอากาศยานต่อไป โดย ทอท. ยืนยันว่า มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้โดยสาร โดยมั่นใจว่า จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจ และประเทศชาติต่อไป
ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า การประชุมเชิงอภิปราย AOT Sister Airport CEO Forum 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของท่าอากาศยานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน (Sister Airport Agreement: SAA) รวม 18 แห่ง กับ ทอท. และผู้บริหารองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ (ACI) และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) สายการบิน หน่วยราชการ รวมทั้งผู้บริหารและพนักงาน AOT เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ทั้งนี้ เป็นการจัดงานประชุมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี เพื่อเป็นเวทีให้ผู้บริหารระดับสูงของ Sister Airport ได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ มุมมองด้านการบริหารจัดการท่าอากาศยานจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศชั้นนำ รวมถึงแบ่งปันข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นประโยชน์ ในการนำมาบริหารท่าอากาศยานให้เป็นเลิศต่อไป ซึ่งการจัดงานประชุมฯ ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลัก “Embracing The Next Chapter in Aviation Industry” เพื่อแสดงแนวโน้มอนาคตของอุตสาหกรรมการบิน รวมถึงการสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศในการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
นายกีรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีการทำงานร่วมกันในเชิงบูรณาการเพื่อยกระดับการดำเนินงานและพัฒนาอุตสาหกรรมการบินด้วยความยั่งยืน อีกทั้ง ท่าอากาศยานภายใต้เครือข่าย SAA ซึ่งล้วนแต่เป็นท่าอากาศยานชั้นนําระดับโลกที่ประสบความสําเร็จ จะร่วมถ่ายทอดประสบการณ์แนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด ที่สามารถนำมาปรับใช้กับท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ของ ทอท. ได้ และยังเพิ่มโอกาสในการขยายพันธมิตรทางธุรกิจในอุตสาหกรรมการบินที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย
สำหรับปัจจุบัน ทอท.ได้จัดทํา SAA กับองค์กรบริหารท่าอากาศยานระหว่างประเทศ จํานวน 14 แห่ง มีท่าอากาศยานระหว่างประเทศภายใต้ SAA จํานวน 18 ท่าอากาศยาน ประกอบด้วย ท่าอากาศยานมิวนิก, ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน, ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ, ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง, ท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง, ท่าอากาศยานเนปยีดอร์, ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ, ท่าอากาศยานโอซาก้า (อิตามิ), ท่าอากาศยานนานาชาติเติน เซื้น เญิ้ต, ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย, ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง, ท่าอากาศยานนานาชาติฟู้โกว๊ก, ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง, ท่าอากาศยานนานาชาติย่างกุ้ง, ท่าอากาศยานลีแอช, ท่าอากาศยานนานาชาติ โออาร์ แทมโบ, ท่าอากาศยานอิสตันบูล และท่าอากาศยานไลพ์ซิก/ฮัลเล่
ขณะเดียวกัน ในปี 2568 ทอท. เตรียมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยาน เพิ่มเติมอีก 3 ท่าอากาศยาน ได้แก่ 1.ท่าอากาศยานนานาชาติเวียนนา 2.ท่าอากาศยานนานาชาติมิลานมัลเปนซา และ 3.ท่าอากาศยานนานาชาติเซาท์เบนด์ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือ ก่อนลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ต่อไป ทั้งนี้ การผนึกกำลังระหว่าง ทอท. กับ 3 ท่าอากาศยานดังกล่าวนั้น เนื่องจาก ทอท. ต้องการดึงผู้โดยสารชาวยุโรปมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดย ทอท. จะแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ของทั้ง 3 ท่าอากาศยานถึงแนวทางการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงเจรจาร่วมสายการบินต่างๆ เพื่อให้เปิดเส้นทางการบินจากกลุ่มประเทศยุโรปมาประเทศไทยมากขึ้นด้วย