‘สุรพงษ์’ สั่งเร่งสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ‘นครปฐม-ชุมพร’ ระยะทาง 420 กม. เตรียมปิดจ๊อบพร้อมเปิดใช้ ส.ค.นี้ คาดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งระบบช่วงกลางปี 68
“สุรพงษ์” สั่งเร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม–ชุมพร ระยะทาง 420 กม. มูลค่า 3.39 หมื่นล้าน คาดเปิดให้บริการ ส.ค. 2567 ก่อนเปิดเต็มรูปแบบทั้งระบบช่วงกลางปี 68 ส่วน “สถานีเพชรบุรี” เตรียมเปิดใช้เต็มรูปแบบ มิ.ย.นี้
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ติดตามความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม–ชุมพร วันนี้ (13 พ.ค. 2567) ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามงานเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงด้านคมนาคม โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ซึ่งมีความสำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางราง และการเดินทางของพี่น้องประชาชนในการเดินทางสู่ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่ผ่านมา มีประชาชนใช้บริการรถไฟในเส้นทางสายใต้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก พึงพอใจในการใช้บริการและลดเวลาการเดินทางให้น้อยลง
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร เป็นโครงการสำคัญในเส้นทางสายใต้ มีระยะทาง 420 กิโลเมตร (กม.) งบประมาณการก่อสร้าง 33,982 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการระหว่าง สถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร รวมระยะทาง 348 กม. ส่วนช่วงที่ 2 ของสายใต้ระหว่างสถานีโพรงมะเดื่อ-บ้านคูบัว ระยะทาง 50 กม. และสถานีสะพลี – ด้านเหนือสถานีชุมพร ระยะทาง 12.80 กม. อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ด้านภาพรวมความก้าวหน้าของโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ทั้งระบบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 สัญญา ขณะนี้ ทุกโครงการมีความก้าวหน้าตามลำดับ โดยคาดว่าทุกโครงการจะดำเนินการาแล้วเสร็จภายในปี 2567 โดยมีรายละเอียด ได้แก่
1.ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 1 (นครปฐม – หนองปลาไหล) ระยะทาง 93 กม. งบประมาณก่อสร้าง 8,198 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 98.319% ล่าช้ากว่าแผน 1.681%
2.ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 2 (หนองปลาไหล – หัวหิน) ระยะทาง 76 กม. งบประมาณก่อสร้าง 7,520 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.313% ล่าช้ากว่าแผน 0.687%
3.ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. งบประมาณก่อสร้าง 5,807 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ
4.ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 1 (ประจวบคีรีขันธ์ – บางสะพานน้อย) ระยะทาง 88 กม. งบประมาณก่อสร้าง 6,465 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.245% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 0.755 %
5.ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 2 (บางสะพานน้อย – ชุมพร) ระยะทาง 79 กม. งบประมาณก่อสร้าง 5,992 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.425% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 0.575 %
อีกทั้ง การรถไฟฯ ได้รายงานความคืบหน้าของสถานีรถไฟเพชรบุรีแห่งใหม่ สำหรับรองรับโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งได้ทยอยเปิดใช้งานไปแล้ว เมื่อ ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา พบว่า ผู้โดยสารได้รับความสะดวก มีความพึงพอใจต่อการใช้บริการ โดยตัวอาคารเป็นลักษณะอาคารขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งลิฟต์ บันไดเลื่อน บันไดทางขึ้นลง บันไดหนีไฟ ห้องสุขา ห้องพักรอสำหรับพระภิกษุสงฆ์ ห้องให้นมบุตร ห้องรับฝากสิ่งของห้องจำหน่ายตั๋ว ห้องเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ รวมทั้งพื้นที่ใช้สอยสำหรับประชาชน นักท่องเที่ยว และมีกำหนดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบใน มิ.ย. 2567
ด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สถานีเพชรบุรี พบว่า บริเวณย่านสถานีรถไฟเพชรบุรี รฟท.ได้ก่อสร้างสะพานลอยคนเดินข้ามเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักศึกษาพยาบาลของวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ซึ่งได้รับคำขอบคุณจากผู้บริหารและเจ้าหน้าที่วิทยาลัยพยาบาล และเนื่องจากปัจจุบัน รฟท.ได้ใช้งานสถานีใหม่ ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาปรับปรุงอาคารสถานีเก่า ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม สำหรับเป็นพิพิธภัณฑ์และอาคารจำหน่ายสินค้า OTOP และของที่ระลึก เพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชนในจังหวัด
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟเพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดจอดรถโดยสารรถประจำทาง สามารถพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นลานจอดรถขนส่งสาธารณะได้เพื่อรองรับการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างล้อและราง ตามนโยบายนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบุรีมีแผนที่จะพัฒนาเส้นทางรถโดยสารสาธารณะเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟเพชรบุรี กับสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อประหยัดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ลดปัญหาการจราจรติดขัด และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกลง
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 421 กม. ปัจจุบันเปิดเดินรถไฟทางคู่ช่วงบ้านคูบัว-สะพลี ระยะทาง 347.4 กิโลเมตร แล้ว ส่วนที่เหลือช่วงสถานีโพรงมะเดื่อ-สถานีบ้านคูบัว ระยะทาง 50 กม. และ ช่วงสถานีสะพลี-สถานีชุมพรและย่านสถานีชุมพร รวม 15.6 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดใช้ทางคู่ได้ใน มิ.ย. 2567 ส่วนช่วงสถานีนครปฐม-สถานีโพรงมะเดื่อ ระยะทาง 8 กม. คาดว่าจะเปิดใช้งานทางคู่ได้ในช่วง ส.ค. 2567 โดยใช้ระบบทางสะดวก (E-Token)ในการเดินรถ ในระหว่างที่ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม (สัญญา 6) ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการเดินรถไฟทางคู่เต็มรูปแบบช่วงกลางปี 2568