‘สุริยะ’ ถก ‘รมต.คมนาคมจีน’ ร่วมพัฒนาการขนส่ง 2 ประเทศ ชงเพิ่ม Slot การบิน-ชวนลงทุนขยายสนามบิน-เชื่อมทางคู่สายใหม่ไทยสู่จีนตอนใต้ เล็งตั้งคณะกรรมการร่วมฯ แชร์ประสบการณ์เจาะอุโมงค์

“สุริยะ” หารือ “หลี่ เสี่ยวเผง” รมต.คมนาคมจีน วางแนวทางความร่วมมือพัฒนาการขนส่ง ชงขอเพิ่ม Slot การบิน 2 ประเทศ หนุนมาตรการ Visa Free พร้อมชวนร่วมลงทุนโปรเจกต์ขยายสนามบินในไทย ถกแผนเชื่อมเส้นทางรถไฟทางคู่ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” จากชายแดน ”โม่หาน“ มายัง “ท่าเรือน้ำลึกระนอง” เล็งตั้งคณะทำงานร่วมฯ แลกเปลี่ยนประสบการณ์-เทคโนโลยีขุดเจาะอุโมงค์ จ.ภูเก็ต ด้าน ”รัฐบาลจีน“ จ่อเทียบเชิญร่วมงาน Global Sustainable Transport Forum 2024 ก.ย.นี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ตนได้เข้าพบนาย หลี่ เสี่ยวเผง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสาธารณรัฐประชาชนจีน และได้มีการหารือถึงความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศในภาพรวมด้านการคมนาคมขนส่งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างไทย และจีน

ขณะเดียวกัน ตามที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบาย Visa Free ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศจีน รวมทั้งประเทศจีน ยังได้มีมาตรการ Visa Free ให้กับนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางไปยังประเทศจีนด้วยนั้น พบว่า ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกในการเดินทางระหว่างกันด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้แจ้งความประสงค์ไปยังรัฐบาลจีน เพื่อพิจารณาถึงแนวทางการเพิ่มตารางการบิน (Slot) ระหว่างไทย-จีนให้กับสายการบิน เพื่อให้เกิดความสะดวก และมีราคาที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้เชิญชวนผู้รับเหมาที่มีศักยภาพและคุณภาพจากประเทศจีน พิจารณาเข้าร่วมลงทุนโครงการต่างๆ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เช่น โครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นต้น

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนด้านการขนส่งทางรางนั้น ยังได้หารือถึงโครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ เส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323.10 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 72,835 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ริมชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือในปี 2571 ทั้งนี้ เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะเป็นประโยชน์กับการขนส่งสินค้าจากจีนตอนใต้ไปสู่มหาสมุทรอินเดียได้

ขณะเดียวกัน หากประเทศจีนพิจารณาก่อสร้างเส้นทางรถไฟจากชายแดนที่เมืองโม่หาน เชื่อมต่อมายังเชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งมีระยะทางประมาณ 200 กม. นั้น จะสามารถขนส่งสินค้าจากจีนตอนใต้มาที่ท่าเรือน้ำลึก จ.ระนองได้ และจะเป็นประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ เพิ่มขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรัฐบาลจีนยังรัยทราบถึงความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 1 และ 2 ของไทย และเห็นว่า หากโครงการดังกล่าวสำเร็จได้เร็ว จะเกิดประโยชน์โดยรวมต่ออนุภูมิภาคเป็นอย่างมาก

”ประเทศไทยมีความชื่นชมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของจีนโดยเฉพาะการก่อสร้างถนนและทางด่วนของจีน ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมากและมีมาตรฐานที่ดี โดยเฉพาะเทคนิคในการขุดเจาะอุโมงค์ เนื่องด้วยขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาก่อสร้างอุโมงค์ที่ จ.ภูเก็ต จึงต้องการให้บริษัทจีนที่มีความเชี่ยวชาญในงานอุโมงค์เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว และขอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีระหว่างกันในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายจีนยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยทั้งการจัดตั้งคณะทำงานและการประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้างอุโมงค์ด้วย“ นายสุริยะ กล่าว

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า นาย หลี่ เสี่ยวเผง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประเทศจีน ยังได้กล่าวเชิญตนเข้าร่วมงาน Global Sustainable Transport Forum 2024 ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงคมนาคมของประเทศจีนในช่วง ก.ย. 2567 โดยการประชุมดังกล่าว จะมีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องความยั่งยืนด้านการขนส่ง โดยเฉพาะประเด็นการขนส่งสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ฝ่ายจีนจะมีหนังสือเชิญเข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการต่อไป