‘สุริยะ’ กระตุ้นหน่วยงาน ‘คมนาคม’ เร่งเบิกจ่ายงบปี 67 กว่า 2.28 แสนล้าน ยันเหลืออีก 5 เดือน ผลงานตามเป้าหมายรัฐบาล

“สุริยะ” เร่งหน่วยงาน “คมนาคม” เบิกจ่ายงบประมาณปี 67 มูลค่า 2.28 แสนล้าน เผยล่าสุดเบิกจ่ายแล้ว 26.42% ยันเหลืออีก 5 เดือน เบิกจ่ายครบตามเป้ารัฐบาล สั่งทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมชี้แจงงบปี 68 ก่อน ครม.เตรียมไฟเขียว ลุยเสนอต่อสภาช่วงกลาง พ.ค.นี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ของกระทรวงคมนาคม วันนี้ (1 พ.ค. 2567) ว่า ตามที่สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณประจำปี 2567 ให้กับกระทรวงคมนาคม จำนวน 228,803.59 ล้านบาทนั้น พบว่า กระทรวงคมนาคมมีผลการเบิกจ่ายงบประมาณฯ ภาพรวมอยู่ที่ 26.42% จากแผนที่วางไว้ 27.53% และรายจ่ายงบลงทุนสูงกว่าเป้าหมายรัฐบาล

ทั้งนี้ มีผลการเบิกจ่ายสะสมอยู่ที่ 23.01% (ข้อมูล ณ วันที่ 26 เม.ย. 2567) คาดการณ์ว่า ในระยะเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่เหลือ 5 เดือน (พ.ค. – ก.ย. 2567) ทุกหน่วยงานจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณฯ ได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลและกระทรวงฯ ตั้งไว้

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานวางแผนการดำเนินงาน เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณมากกว่า 70% จากงบประมาณทั้งหมด พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มรายละเอียดเรื่องความปลอดภัยลงไปในสัญญาจ้าง ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการก่อสร้าง

นอกจากนี้ ให้ความสำคัญกับการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นสำคัญ โดย ทล. มีผลการเบิกจ่ายสะสมมากกว่า 96% คิดเป็น 29,121.39 ล้านบาท จากแผน 30,245.37 ล้านบาท สำหรับ ทช. ได้ผู้รับจ้างดำเนินงานแล้ว 1,418 รายการ จากแผน 3,572 รายการ คิดเป็นวงเงิน 5,448.04 ล้านบาท จากแผน 34,381.99 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ผู้รับจ้างครบตามแผนภายใน มิ.ย. 2567

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นการจัดทำงบประมาณประจำปี 2568 ของหน่วยงาน ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรได้ประมาณกลาง พ.ค. 2567 จึงได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับการชี้แจงต่อรัฐสภาด้วย