‘นายกฯ’ เปิดวิชั่น! ดันไทยสู่ ‘ฮับการบิน’ ในภูมิภาค วางเป้า ‘สุวรรณภูมิ’ ติด TOP 20 ของโลกใน 5 ปีนี้ รับผู้โดยสาร 150 ล้านคนภายในปี 73

“นายกฯ” ประกาศวิชั่น ดันไทยเป็น “ฮับการบิน” ของภูมิภาค ตั้งเป้า “สุวรรณภูมิ“ ติด TOP 20 ของโลกภายใน 5 ปี รองรับผู้โดยสารได้มากกว่าปีละ 150 ล้านคนภายในปี 73 พร้อมเปิดแผนพัฒนาสนามบิน ทอท. ด้าน “สุริยะ” เด้งรับนโยบาย ลุยจัดทำแผนระยะสั้น-ระยะยาว ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบิน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (1 มี.ค. 2567) ว่า รัฐบาลได้ผลักดันนโยบาย Aviation Hub พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการบินฯ ติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 150 ล้านคน/ปี โดยได้เน้นย้ำขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง จะต้องมีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น โดยต้องแก้ไขปัญหาภายใน 6 เดือน รวมทั้งการเปิดเช็กอิน โหลดสัมภาระแบบอัตโนมัติ และเพิ่มการเปิดเช็คอินและโหลดสัมภาระก่อนเครื่องบินจะขึ้น 6 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร และมีการเพิ่มบุคลากรที่ให้บริการภาคพื้น และมีตัวชี้วัดการทำงานอย่างชัดเจน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากร รวมทั้งขั้นตอนการถ่ายสินค้าต้องเชื่อมโยง รวดเร็ว สะดวกขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวดีขึ้น

สำหรับท่าอากาศยานดอนเมือง รัฐบาลมีแผนเปลี่ยนท่าอากาศยานให้เป็นท่าอากาศยานแบบ POINT-TO-POINT ที่มีจุดเด่นให้บริการเข้าออกได้เร็วขึ้น และขยายขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 30 ล้านคนเป็น 50 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2573 ผ่านการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมและขยายอาคาร 1 และอาคาร 2 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ รองรับผู้โดยสารได้ 27 ล้านคนต่อปี และจะสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศใหม่ รองรับผู้โดยสารได้ 23 ล้านคนต่อปี รวมทั้งมีแผนก่อสร้างอาคาร Junction Building เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าโอทอป และยกระดับการให้บริการทุกภาคส่วน ทั้งพื้นที่จอดรถการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนทางรางรถไฟฟ้าสายสีแดงให้เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีแผนก่อสร้างท่าอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 หรือ ท่าอากาศยานอันดามัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนภูเก็ต พังงา กระบี่ รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง โดยจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 40 ล้านคน ตั้งเป็นฮับการบินภาคใต้เชื่อมเส้นทางระยะไกล (Long-haul Flight) ทั้งเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศแบบ Point to Point สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ตมีแผนพัฒนาส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบิน รองรับผู้โดยสารจากเดิม 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2573

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างศึกษาโครงการพัฒนา Seaplane & Ferry Terminal พัฒนาพื้นที่อากาศยานขึ้น – ลงในทะเล เชื่อมต่อไปยังเกาะสมุย เกาะช้าง และหัวหิน เป็นต้น สำหรับแผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศและปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม ที่รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวจากเดิม 8 ล้านคนต่อปี เป็น 16.5 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2572 และก่อสร้างท่าอากาศยานเชียงใหม่แห่งที่ 2 หรือท่าอากาศยานล้านนา ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 20 ล้านคนต่อปี

ขณะเดียวกัน รัฐบาลมีแผนยกระดับสนามบินทั่วประเทศ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับระบบบริการผู้โดยสารสมัยใหม่เข้ามาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการให้มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และมีแผนขยายอุตสาหกรรมการบำรุงรักษาให้กลายเป็นศูนย์กลางการบำรุงรักษาทั้งเครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินส่วนตัว มีระบบคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิเพื่อกระจายสู่ประชากรกว่า 280 ล้านคน ทั้งไทย มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม พร้อมทั้งจะต่อยอดความร่วมมือกับสายการบินต่างๆ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรม และพัฒนาสายการบินไทย ปรับปรุงเส้นทางตารางการบินให้เหมาะสม จำนวนและประเภทเครื่องบิน บัตรโดยสารและการบริการ ตลอดจนส่งเสริมบุคลากรให้เพียงพอพร้อมให้บริการ

เป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการบิน จะต้องยกระดับสนามบินสุวรรณภูมิให้ติดอันดับ 1 ใน 50 ของสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ภายในระยะเวลา 1 ปี และติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลก ภายในระยะเวลา 5 ปี” นายเศรษฐา กล่าว

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา โดยมุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน และตั้งเป้าประเทศไทยก้าวไปเป็นที่ 1 ของภูมิภาคนั้น 1 ใน 8 เสาหลักเศรษฐกิจ คือ การผลักดันและพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินและการขนส่งแห่งภูมิภาค

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม รวมทั้งหน่วยงานในสังกัด และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้ขานรับวิสัยทัศน์ นโยบาย และนำมาจัดทำเป็นแผนดำเนินงานทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบิน หรือ Aviation Hub ของภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สร้างรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และนำความอยู่ดีกินดีมาสู่พี่น้องประชาชน โดยรัฐบาลมีแผนจะพัฒนาท่าอากาศยานของไทยให้กลับมาติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 5 ปี เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในจุดภูมิศาสตร์กึ่งกลางของเอเชียแปซิฟิก มีพรมแดนติดกับ 3 ประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งได้รับสิทธิประโยชน์จากการเปิดบินเสรีการบินอาเซียน

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยขยายขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารได้ 150 ล้านคนต่อปีภายในปี 2573 ซึ่งขณะนี้ ทอท. เปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ SAT-1 ที่สามารถรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี และในปี 2567 เตรียมเปิดใช้ทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งจะสามารถรองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวต่อชั่วโมง และมีแผนก่อสร้างขยายอาคารผู้โดยสารทางทิศตะวันออก – ทิศตะวันตก ให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 30 ล้านคนต่อปี รวมทั้งมีแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทางทิศใต้ ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 60 ล้านคนต่อปี และแผนก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4 รองรับเที่ยวบินได้ถึง 120 เที่ยวบินต่อชั่วโมง